ร่วมงานกับเรา
ข่าวสารรถจักรยานยนต์ทั่วไป > 2548 > แฉขบวนการค้ารถข้ามชาติ ชมรมผู้ค้ารถจักรยานยนต์ภาคอีสานเปิดโปงรูปแบบใหม่
แฉขบวนการค้ารถข้ามชาติ ชมรมผู้ค้ารถจักรยานยนต์ภาคอีสานเปิดโปงรูปแบบใหม่
ที่มา - นสพ.ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 2-4 มิ.ย.48

ชมรมผู้ค้ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่าภาคอีสานสุดทนปัญหารถหาย ออกโรงแฉเป็นรูปแบบใหม่ของกลุ่มขบวนการส่งรถข้ามชาติ ใช้รูปแบบจ้างชาวบ้านมาทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ จากนั้นก็ส่งออกไปขายในประเทศเพื่อนบ้าน โดยทำการแจ้งความว่ารถหาย เผยจังหวัดติดชายแดนบางเดือนมีการแจ้งความรถหายกว่า 100 คน

นายกริช เกียรติสุรนนท์ ประธานชมรมผู้ค้ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่าภาคอีสาน เปิดเผยว่า จากการประชุมสมาชิกชมรมฯ ในภาคอีสาน ซึ่งมีประมาณ 50 ราย ต่างก็ประสบความเดือดร้อนอย่างมากจากกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้รูปแบบใหม่ในการยักยอกทรัพย์ โดยทำการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ แล้วนำไปขายต่อในประเทศเพื่อนบ้าน แล้วไปแจ้งความว่ารถหายหรือถูกโจรกรรม ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นทั่วภาคอีสาน

โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ตามแนวชายแดนจะพบมากที่สุด โดยผู้ประกอบแทบจะไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ มีการทำเป็นกระบวนการ บางรายมีกลุ่มทุนหนุนหลัง มีแม้แต่ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ซึ่งอาศัยช่องว่างจากการคุ้มครองผู้บริโภค ทำให้ผู้ประกอบการถูกเข้าใจว่า เป็นผู้เอาเปรียบและรังแกลูกค้า จนบางครั้ง แม้แต่ตำรวจก็ไม่รับแจ้งความดำเนินคดี และอัยการไม่ยอมส่งฟ้องศาล

พฤติการณ์ของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะใช้วิธีจ้างชาวบ้านให้ไปเช่าซื้อรถ จากนั้นอาจจะมีการส่งงวดบ้าง 2–3 ครั้ง เพื่อสร้างความเชื่อถือ แล้วทำการเช่าซื้อรถเพิ่มอีก รวมทั้งการจ้างชาวบ้านหลายๆ คน ไปทำการเช่าซื้อรถ จากนั้นก็นำส่งขายในประเทศเพื่อนบ้าน แล้วให้ชาวบ้านแจ้งความว่า รถถูกโจรกรรม และไม่ยอมส่งค่างวดรถอีกต่อไป ซึ่งผู้ประกอบการบางรายมีลูกค้าแจ้งว่ารถหายมากถึงเดือนละ 20–30 คัน บางจังหวัดตามแนวชายแดน มีการแจ้งรถของลูกค้าหายเดือนละมากกว่า 100 คัน โดยรถจักรยานยนต์ที่แจ้งว่าหายนั้น มีทุกยี่ห้อ ซึ่งเป็นรถที่เช่าซื้อมาใหม่แทบทั้งสิ้น

" พวกเราเป็นผู้ประกอบการประเภทเอสเอ็มอี ไม่ใช่ต่างด้าวที่ไหน ไม่ใช่โจรที่เอาเปรียบลูกค้า แต่เวลานี้เรากำลังถูกเอาเปรียบ โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ยอมช่วยเหลืออะไร ส่วนใหญ่อาศัยเงินกู้จากสถาบันการเงิน ขณะที่เวลานี้ มีการแข่งขันกันสูงมาก มีผู้ประกอบการรายใหม่เกิดขึ้นอีกมาก โดยในภาคอีสาน คาดว่ามีผู้ค้ารถจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อรวมประมาณ 200 กว่าราย ซึ่งจากการสอบถามแต่ละรายก็พูดเหมือนกันว่า มีปัญหาเดือดร้อนในเรื่องนี้ไม่ต่างกัน โดยที่ไม่รู้ว่าจะต้องแก้ไขกันอย่างไร ส่วนบริษัทแม่ก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเราในเรื่องนี้ มีแต่เร่งรัดให้เพิ่มยอดขายมากขึ้น และนอกจากปัญหาจากกลุ่มมิจฉาชีพพวกนี้ ยังเดือดร้อนจากกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ในด้านเงินกู้หรือบัตรเครดิต ก็นำรถจักรยานยนต์มาขายแข่งกับเราอีกด้วย เวลานี้ เรากำลังรวบรวมข้อมูลจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ ทั่วภาคอีสาน ซึ่งคาดว่าตัวเลขรถหายโดยการนำไปขายต่างประเทศแต่ละเดือนคงมีมากจนน่าตกใจทีเดียว" นายกริชกล่าวต่อและว่า

จากที่ไม่ค่อยได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการดำเนินการกับกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ ทำให้พวกตนต้องร้องต่อสื่อมวลชน เพื่อเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพที่ไปทำการว่าจ้างให้ซื้อรถจักรยานยนต์ และจะประสานเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการด้วยกันทั่วภาคอีสาน เพื่อแจ้งเบาะแสข้อมูล รวมทั้งแจ้งบัญชีรายชื่อของลูกค้าที่มีพฤติกรรมดังกล่าวให้ทราบทั่วกัน ขณะเดียวกันอาจจะมีการประชุมผู้ประกอบการทั่วภาคอีสาน เพื่อหามาตรการแก้ไขปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป