ร่วมงานกับเรา
ข่าวสารรถจักรยานยนต์ทั่วไป > เอ.พี.ฮอนด้า แผน 3 ปี "ใหญ่ ใหม่ มัน"
เอ.พี.ฮอนด้า แผน 3 ปี "ใหญ่ ใหม่ มัน"
ที่มา - ASTV ผู้จัดการรายวัน วันที่ 8 มิ.ย.54

หลัง "เอ.พี.ฮอนด้า" ประกาศแผนธุรกิจระยะกลาง 3 ปีฉบับใหม่ (พ.ศ. 2554-2556) โดยมุ่งเน้นและตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทย ผ่านแบรนด์อันแข็งแกร่งโปรดักต์คุณภาพ กิจกรรมการตลาดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายพร้อมตอบสนองความพอใจสูงสุดของลูกค้าในทุกๆ ด้าน

ในส่วนของโปรดักต์ เอ.พี.ฮอนด้า ย้ำว่าภายใน 3 ปีนี้จะมีการเปิดตัวรถใหม่อย่างน้อย 11 รุ่น ซึ่งจะมีทางเลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถบ้านทั่วไป รถแฟชันเอาใจวัยรุ่นไปจนถึงพวกบิ๊กไบค์ พร้อมชูเทคโนโลยีหัวฉีด PGM-FI ซึ่งฮอนด้าถือเป็นผู้บุกเบิกและทำตลาดอย่างจริงจังเป็นเจ้าแรก(รถของฮอนด้าเป็นหัวฉีดทุกรุ่น ตั้งแต่เมษายนปีที่แล้ว)

โดยหนึ่งรุ่นที่ประเดิมเปิดตัวไปตั้งแต่ต้นปีคือ มอเตอร์ไซค์คู่บ้านคู่เมือง "เวฟ110ไอ ใหม่" (Honda Wave 110i) ที่ปรับปรุงรูปลักษณ์ และออปชัน มาพร้อมเครื่องยนต์หัวฉีดสนนราคาเริ่มต้น 38,400 บาท ซึ่งฮอนด้าวางเป้าหมายการขายปีนี้ไว้ถึง 540,000 คัน

อย่างไรก็ตาม ยังมีความชัดเจนว่า ฮอนด้าเตรียมทำตลาดรถเซกเมนต์ใหม่ หรือเป็นมอเตอร์ไซค์ราคาประหยัด เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าระดับล่างอีกด้วย

"หากจะกล่าวถึงรถระดับล่างคงมี 2 ความหมายประการแรกคือการทำรถใหม่ออกมาตอบโต้กับรถจีน หรือแบรนด์ราคาถูกที่ทะลักเข้ามาขายในไทย และประการที่สองคือการทำรถรุ่นใหม่ที่ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย ขณะเดียวกันก็เป็นการขยายธุรกิจไปในตัว ซึ่งฮอนด้าคิดในประเด็นหลัง และเป็นแผนการในระยะยาว" จิอากิ คาโต ประธานกรรมการบริหารบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวกับ "ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง" และว่า

"ตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทยเริ่มมีสัญญาณอิ่มตัวเราต้องคิดถึงการขยายตลาด หรือการเปิดไปสู่เส้นทางใหม่ๆขณะเดียวกันยังมีกลุ่มลูกค้าที่เรียกร้องรถราคาถูก เราจึงไม่อาจปฏิเสธความต้องการได้"

เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวล่าสุดของรถจักรยานยนต์ราคาประหยัดรุ่นนี้ "จิอากิ คาโต" แย้มว่า กำลังอยู่ในขึ้นตอนศึกษายังไม่สามารถให้รายละเอียดได้มากนัก ส่วนเรื่องของราคาต้องพิจารณาว่า ปัจจุบันรถจักรยานยนต์ถูกที่สุดราคาอยู่ประมาณ35,000-36,000 บาท ดังนั้นถ้าเป็นรถเซกเมนต์ใหม่เพื่อให้ลูกค้าซื้อหาได้ง่าย ราคาก็ควรจะลดลงมาอีกอย่างน้อย 10% แต่ถ้าเหนือไปกว่านั้นสามารถจัดการต้นทุน และทำราคาขายไม่ถึง30,000 บาทได้ ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก

"เราต้องการทำรถราคาถูกลง แต่รถต้องมีคุณภาพในระดับที่ลูกค้าชาวไทยยอมรับได้ และมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยซึ่งทีมงานของฮอนด้ากำลังพยายามกันอยู่ และถือเป็นความท้าทายในการทำสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่มีใครทำได้" จิอากิ คาโต กล่าว

ในเมื่อโปรดักต์มีความพร้อมจากการวางแผนระยะยาวและบูรณาการเทคโนโลยีขับเคลื่อนให้มีความชัดเจนสอดคล้องกับกฎหมาย-มาตรฐานไอเสีย (เหมือนตอนเปลี่ยนจากมอเตอร์ไซค์ 2 จังหวะ เป็น 4 จังหวะ) ที่เหลือคงเป็นวิธีแนะนำรถเข้าสู่ตลาด ซึ่งในระยะหลังมักจะเห็นสีสันความแปลกใหม่จากฮอนด้าอยู่เสมอ

โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดคือการทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น ไว้ว่าจะแบบ Above the Line หรือ Below the Line และตามแผนธุรกิจระยะกลาง 3 ปีที่เพิ่งประกาศไป คือการใช้แบรนด์กลยุทธ์"ชีวิตสนุกถ้าไม่หยุดค้นหา Discover Your Fun" เน้นจัดกิจกรรมที่ "ใหญ่ ใหม่ มัน" แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

ดังนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย คือการเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในทุกด้าน ผ่านแบรนด์แมสเสจ "ชีวิตสนุกถ้าไม่หยุดค้นหา"ฮอนด้าจึงตัดสินใจใช้เครื่องมือระดับโลกอย่าง สโมสรฟุตบอล"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" และ "ลิเวอร์พูล"

บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด จัดการเซ็นสัญญา 3 ปีเป็นพันธมิตรกับ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" และ "ลิเวอร์พูล"เพื่อร่วมทำกิจกรรมการตลาดแบบ "สปอร์ต ไลฟ์สไตล์"และคาดว่าจะต้องจ่ายเงินในการเซ็นสัญญาเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า150 ล้านบาท (แมนฯยู ประมาณ 100 ล้านบาท ส่วน ลิเวอร์พูลประมาณ 50 ล้านบาท)

สำหรับรายละเอียดต่างๆ ของแคมเปญยังไม่เปิดเผย แต่เชื่อว่า เอ.พี.ฮอนด้า จะจัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการช่วงเดือนกรกฎาคม หรือก่อนเปิดฤดูกาลแข่งขันใหม่ 2011-2012

"นอกเหนือไปจากรถจักรยานยนต์คุณภาพ ที่ใช้งานดีขับขี่ง่าย ซ่อมบำรุงไม่มีปัญหา เราอยากมอบความสุขให้คนไทยในหลายรูปแบบ ทั้ง ดนตรี (คอนเสิร์ต) กีฬา และประสบการณ์การขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้ภาพใหญ่ของแคมเปญ ชีวิตสนุกถ้าไม่หยุดค้นหา" จิอากิ คาโต กล่าวและว่า
ในส่วนของ "กีฬา" ฮอนด้าเห็นว่าคนไทยชอบฟุตบอลมากโดยเฉพาะฟุตบอลอังกฤษ ที่มีสโมสร "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"และ "ลิเวอร์พูล" เป็นขวัญใจ ซึ่งกิจกรรมร่วมสนุกจะมีต่อยอดหลากหลายตลอดทั้งปี

สำหรับงบการตลาดที่ใช้ในแคมเปญตลอด 3 ปีค่อนข้างสูงและถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ทำธุรกิจในไทยมา25 ปี แต่กระนั้นก็ถือว่าคุ้มค่า ถ้าสิ่งที่ได้รับกลับมาคือความสุขของลูกค้า อันไม่สามารถตีเป็นจำนวนเงินได้

จิอากิ คาโต ยังย้ำว่าการนำสโมสร "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"และ "ลิเวอร์พูล" มาร่วมทำกิจกรรมการตลาดถือเป็นการตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้ามีให้แก่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า โดยสิ่งที่ได้รับจากทั้งสองสโมสรจะต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้นและขณะนี้เรากำลังต่อรองผลประโยชน์ต่างๆ อยู่ แต่เชื่อว่าสุดท้ายจะมีเซอร์ไพรส์แน่นอน

...นั่นเป็นดีลกระหึ่มวงการที่ เอ.พี.ฮอนด้า เตรียมขนมาให้คนไทยได้สัมผัสในเร็วๆ นี้ ซึ่งภายในระยะเวลา 3 ปีที่เซ็นสัญญา ย่อมมีค่าใช้จ่ายรวมกับกิจกรรมต่างๆ ไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท ดังนั้นต้องมาวัดกึ๋นของฮอนด้า ว่าจะดึงผลประโยชน์ หรือสิ่งที่ควรจะได้รับจากทั้งสองสโมสรออกมาใช้ทำตลาดในไทยได้คุ้มค่าแค่ไหน?

ในเมื่อคิดการ "ใหญ่ ใหม่ มัน" เตรียมปูพรมต่อเนื่อง 3 ปีนับจากนี้ จึงน่าสนใจว่า ผลลัพธ์ด้านยอดขายและส่วนแบ่งทางการตลาดจะเป็นอย่างไร เพราะปัจจุบันก็ทิ้งเบอร์สองแบบไม่เห็นฝุ่นอยู่แล้ว?

"ที่ผ่านมาฮอนด้าเป็นผู้นำตลาดชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นโปรดักต์และเทคโนโลยี เราสัญญาว่าจะนำสิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆมาเสนอลูกค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่อง อย่างแคมเปญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ถือเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้นส่วนเรื่องยอดขายหรือส่วนแบ่งการตลาด เราไม่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ แต่เชื่อว่าถ้าวางขั้นตอนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพใช้กลยุทธ์ถูกทาง สุดท้ายลูกค้าชอบ ส่วนแบ่งการตลาดก็จะสูงขึ้นเอง" นายใหญ่ เอ.พี.ฮอนด้า กล่าวปิดท้าย

...ในยุคที่ตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทยใกล้ถึงจุดอิ่มตัวและคู่แข่งพยายามรุกตลาดทุกทิศทาง ฮอนด้าเองก็ไม่ยอมหยุดนิ่ง ขณะเดียวกันการวางรากฐานด้านการผลิต ประกอบกับคู่ค้าทางธุรกิจอันแข็งแกร่งในไทย ถือเป็นศักยภาพที่ได้เปรียบอยู่แล้ว ยิ่งนับจากนี้ไปเตรียมโหมตลาดกับกลยุทธ์ "สร้างความสุขและตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้เหนือความคาดหมาย" ผ่านโปรดักต์เยี่ยม บริการเลิศ กิจกรรมโดนใจ...แล้วผลสุดท้ายส่วนแบ่งการตลาด 70% จะน้อยไปไหม!?

การตลาดกับฟุตบอลรอบ 5 ปี
นอกจากการเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"และ "ลิเวอร์พูล" สองสโมสรฟุตบอลระดับตำนานจากเกาะอังกฤษแล้วที่ผ่านมาในรอบ 5 ปี บริษัท บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ได้ทำการตลาดผ่านกิจกรรมฟุตบอลอย่างต่อเนื่อง... ส่วนจะมีอะไรบ้าง มาดูกัน

o ปี 2006 ฟุตบอลโลก
สนับสนุนการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2006 ประเทศเยอรมนีอย่างเป็นทางการ ตลอดช่วงการแข่งขันตั้งแต่ 9 มิถุนายน-9 กรกฎาคมพ.ศ. 2549 ครบทั้ง 64 คู่ พร้อมจัดแคมเปญ "ลุ้นชมบอลโลกติดขอบสนามกับฮอนด้า" เอาใจคอบอลด้วยรางวัลใหญ่แพกเกจทัวร์เชียร์ฟุตบอลโลก 2 นัด จำนวน 10 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 150,000 บาท

o ปี 2008 ฟุตบอลยูโร
ทุ่มงบกว่า 70 ล้านบาท ผนึกพันธมิตร "อาร์เอสบีเอส" ในเครือบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นผู้สนับสนุนในการถ่ายทอดสดและทำกิจกรรมต่างๆ ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ"ยูโร 2008" ที่ประเทศออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์ร่วมเป็นเจ้าภาพ

o ปี 2009 ลิเวอร์พูลเยือนไทย
ร่วมสนับสนุนนำทีม "ลิเวอร์พูล" มาอุ่นแข้งกับทีมชาติไทยในวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถานโดยค่าเหนื่อยของทีม "หงส์แดง" ในการมาเยือนเมืองไทย ตกราวๆ1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 35 ล้านบาท (ช่วงนั้น) และนับเป็นการมาเยือนเมืองไทย ครั้งที่ 3 ในรอบ 8 ปี

o ปี 2010 ฟุตบอลโลก (แอบลุ้นอังกฤษ)
ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท นำลิขสิทธิ์ทีมชาติอังกฤษ ในศึกลูกหนังโลกปี 2010 ด้วยแคมเปญ "เกาะติดอังกฤษ สู้ศึกลูกหนังโลก ลุ้นโชคทุกรอบ กับฮอนด้าสกู๊ปปี้ ไอ"
โดยให้ลูกค้าทายว่า ทีมชาติอังกฤษจะสู้ศึกฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้ได้ถึงรอบไหน (รอบ 32/16/8/4 ทีมสุดท้าย รอบรอง,รอบชิง) ถ้าทายถูกลุ้นรับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอลายสิงห์โตคำราม Limited Edition 100 คัน และมูลค่ารางวัลอื่นๆรวมกว่า 7 ล้านบาท

o ปี 2011 เชลซีเยือนไทย
เพิ่งแถลงข่าวไปสดๆร้อนๆ ในการร่วมสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษระหว่างทีมเชลซี ปะทะ ทีมไทยพรีเมียร์ลีกออลสตาร์ส โดยทีมสิงโตคำราม นำโดย จอห์น เทอร์รี, แฟรงค์แลมพาร์ด, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, เฟอร์นันโด ตอเรส, นิโกลาส์ อเนลก้า,แอชลีย์ โคล, มิคาเอล เอสเชียง ฯลฯ ในวันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคมนี้ ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน