ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยสร้างสถิตินิวไฮ ด้วยตัวเลขจดทะเบียนประจำเดือนมิถุนายน 2554 ทั้งสิ้น 221,818 คัน นับเป็นยอดสูงสุดในประวัติการณ์ ส่งผลให้ยอดขายทั้งตลาดในช่วงครึ่งปีแรกทะลุหลักล้านที่ 1,080,624 คัน เติบโตกว่าปีก่อนหน้าถึง 116%
โดย “สกู๊ปปี้ ไอ” สุดยอดรถ เอ.ที. แห่งยุค มาแรงสร้างสถิตินิวไฮร่วมด้วยในประเภทรถ เอ.ที.ที่ครองความนิยมสูงสุด ด้วยยอดจดทะเบียนในเดือนเดียวกันถึง 42,468 คัน สูงที่สุดในประวัติการณ์จำหน่ายรถเอ.ที.ในประเทศไทย
คาดจบปี 2554 ตลาดรวมจะมีปริมาณขายสูงถึง 2 ล้านคัน ฮอนด้าผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทย ประกาศปรับเป้ายอดจดทะเบียนจากเดิมที่คาดการณ์ไว้เมื่อต้นปี 1.33 ล้านคัน เพิ่มเป็น 1.48 ล้านคัน พร้อมเดินหน้าการสร้างแบรนด์ภายใต้แนวคิด “ชีวิตสนุกถ้าไม่หยุดค้นหา” ด้วยกิจกรรมความสนุกสุดยิ่งใหญ่แห่งปีกับ 2 ทีมฟุตบอลระดับตำนานของโลก “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” และ “ลิเวอร์พูล” ระเบิดในรูปแบบ “ฮอนด้า มันส์ทะลุแมตช์” ตั้งแต่กลางเดือน ก.ค.นี้เป็นต้นไป ประเดิมรับความสนุกแรกจากฮอนด้า ด้วย New Honda Scoopy i Limited Edition ลายลิขสิทธิ์แท้แมนฯยู และลิเวอร์พูล ที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษจำนวนจำกัดเพียงทีมละ 5,000 คัน เปิดโอกาสให้สาวกผีและหงส์ตัวจริงได้จับจอง และสนุกไปกับการขับขี่รถจักรยานยนต์เอ.ที. ที่มียอดขายสูงที่สุดในประเทศไทยอย่างฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ
นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร และผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด รายงานสภาพตลาดรถจักรยานยนต์ล่าสุดปิดครึ่งปีแรกของปี 2554 ว่า “ตลอดช่วงระยะเวลาครึ่งแรกของปี 2554 ที่ผ่านมา มีปริมาณยอดสะสมจดทะเบียนป้ายวงกลมรถจักรยานยนต์ทั้งสิ้น 1,080,624 คัน มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 147,404 คัน เติบโตกว่าปีก่อนหน้าถึง 116% ขณะที่ปริมาณยอดขายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีปริมาณการจำหน่ายสูงสุดถึง 221,818 คัน เติบโตกว่าปีก่อนหน้าถึง 122% ที่จำนวน 40,210 คัน สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อระบบเศรษฐกิจอันแข็งแกร่งของไทย อีกทั้งได้ปัจจัยสนับสนุนจากการเลือกตั้งใหญ่ของประเทศที่ผ่านมา ช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อของผู้บริโภคในทุกภาคส่วน
หากศึกษาในรายละเอียดจะพบว่า ภายใต้สัญญาณการเติบโตของตลาดในภาพรวมนั้น สะท้อนตัวเลขในเชิงลึก ชี้ให้เห็นถึงกระแสการเติบโตกลุ่มรถจักรยานยนต์ประเภท เอ.ที. ที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมิถุนายนเดือนเดียว “ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ” สร้างสถิตินิวไฮอีกครั้ง ด้วยยอดจำหน่ายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 42,468 คัน สูงที่สุดในประวัติการณ์จำหน่ายรถ เอ.ที. ในประเทศไทย ซึ่งเป็นผลมาจากคุณสมบัติอันโดดเด่นรอบด้านของ “สกู๊ปปี้ ไอ” ทั้งดีไซน์ของตัวรถและสมรรถนะเครื่องยนต์ระบบหัวฉีดแบบ PGM-FI สอดรับความตั้งใจอันแรงกล้าของฮอนด้า ในการมุ่งมั่นนำเสนอความสุขและความสนุกอย่างไร้ขีดจำกัด เพื่อส่งมอบความเป็นหนึ่งในทุกๆ ด้านอย่างเป็นรูปธรรมให้แก่ประชาชนชาวไทย ซึ่งตรงกับแบรนด์แมสเสจ “ชีวิตสนุกถ้าไม่หยุดค้นหา : Discover Your Fun” ตอกย้ำภาพลักษณ์ “ผู้นำมอเตอร์ไซค์หัวฉีด” และ “ผู้นำไลฟ์สไตล์ความสนุก” อย่างต่อเนื่อง
สำหรับภาพรวมของตลาดเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นเดือนแรกของไตรมาสที่ 3 เป็นที่คาดกันว่ายอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์จะซบเซาลงเล็กน้อย อันเนื่องมาจากประเทศไทยเข้าสู่ฤดูมรสุมและเพาะปลูก อาจจะส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจในการจับจ่าย ฮอนด้า ในฐานะผู้นำตลาดรถสองล้อ จึงต้องการที่จะกระตุ้นตลาดรถ เอ.ที. ด้วยการเปิดตัวรถนิวฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ ลิมิเต็ด เอดิชั่น ลายลิขสิทธิ์แท้แมนฯยูฯ และลิเวอร์พูล จำนวนจำกัดเพียงทีมละ 5,000 คัน เพื่อเอาใจคอบอลของทั้งสองทีมในฐานะที่ฮอนด้าเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ของทั้งสองสโมสรในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ กอปรกับการที่ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอได้รับความนิยมจากวัยรุ่นวัยมันส์มาโดยตลอดจนมียอดขายสุงสุดในขณะนี้
นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-มิถุนายน 2554) ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทยมีปริมาณจำหน่ายสูงเกินกว่า 1 ล้านคัน อีกทั้งจากปัจจัยบวกของเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณดีมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และภาคการส่งออกจะเป็นปัจจัยสำคัญให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้ฮอนด้าในฐานะผู้นำตลาดประกาศปรับเป้ายอดจดทะเบียนป้ายวงกลมรถจักรยานยนต์ของบริษัทในปี 2554 จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อต้นปีที่จำนวน 1.33 ล้านคัน เป็น 1.48 ล้านคัน เพื่อให้สอดคล้องกับยอดการจำหน่ายในตลาดรวมที่คาดว่าจะสูงถึง 2 ล้านคันเมื่อถึงสิ้นปีนี้
ด้านรายงานตัวเลขตลาดรวมรถจักรยานยนต์ทุกประเภทประจำเดือนมิถุนายน 2554 มีปริมาณการจดทะเบียนสะสมทั้งสิ้น 221,818 คัน แบ่งเป็นรถแบบ เอ.ที. 114,993 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 52% รถแบบครอบครัว 99,609 คัน หรือเทียบเท่าสัดส่วนตลาด 45% รถแบบออฟโรด 3,182 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 1% รถแบบสปอร์ต 2,459 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 1% รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 1,080 คัน และรถประเภทอื่นๆ อีก 495 คัน รวมกันมีสัดส่วนตลาด 1 %
หากแบ่งแยกเป็นยอดจดทะเบียนตามประเภทผู้ผลิตในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รถจักรยานยนต์ฮอนด้า 156,066 คัน เทียบเท่าอัตราครองตลาด 70%, ยามาฮ่า 51,773 คัน อัตราครองตลาด 23%, ซูซูกิ 7,563 คัน อัตราครองตลาด 3%, คาวาซากิ 3,637 คัน ไทเกอร์ 208 คัน, แพลตตินัม 50 คัน, เจอาร์ดี 9 คัน และอื่นๆ 2,512 คัน