ร่วมงานกับเรา
นโยบายการกำกับดูแลกิจการและจรรยาบรรณทางธุรกิจ

บริษัท เวิลด์ลีส จำกัด เป็นบริษัทในเครือของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) มีการกำกับดูแลกิจการและจรรยาบรรณทางธุรกิจสอดคล้องกับแนวทางที่ธนาคารกำหนด ดังนี้

คำนิยาม
"จรรยาบรรณ" หมายถึง แนวทางปฏิบัติที่ดีในการดำเนินธุรกิจ
“บริษัท” หมายถึง บริษัท เวิลด์ลีส จำกัด
"กรรมการ ผู้บริหาร" หมายถึง กรรมการ ผู้บริหารตามสายงานของบริษัท
"ผู้บังคับบัญชา" หมายถึง ผู้บังคับบัญชาตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของบริษัท
"พนักงาน" หมายถึง พนักงานตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของบริษัท
"คู่ค้า" หมายถึง ผู้จัดหาสินค้าและบริการให้กับบริษัท
"ลูกค้า" หมายถึง ผู้ใช้บริการของบริษัท
"ผู้มีส่วนได้เสีย" หมายถึง ผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ถือหุ้น พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า เจ้าหนี้ คู่แข่งทางการค้า ภาครัฐ ตลอดจนองค์กรอื่นๆ ในสังคม
จรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ
จรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจถือเป็นส่วนสำคัญในการกำกับดูแลกิจการ ที่ดี บริษัทจึงมีหลักการจรรยาบรรณ 11 ประการ เพื่อให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับของบริษัท ยึดเป็นกรอบในการปฏิบัติร่วมกัน ดังนี้

  1. ลูกค้า
    บริษัทมุ่งมั่นในการปกป้องผลประโยชน์ของ ลูกค้าตลอดเวลา เอาใจใส่ รับผิดชอบ และสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าด้วยการนำเสนอบริการและผลิตภัณฑ์ที่มี คุณภาพและมีประสิทธิภาพ
  2. ผู้ถือหุ้น
    บริษัทมุ่งมั่นให้มีการดำเนินธุรกิจอย่าง มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล โปร่งใส เกิดผลการดำเนินงานที่ สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มั่นคงและเหมาะสมแก่ผู้ถือหุ้น ตลอดจนพยายามอย่างเต็มที่ในการรักษาไว้ซึ่งทรัพย์สิน ชื่อเสียง และภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัท
  3. พนักงาน
    บริษัทถือว่าพนักงานทุกคนเป็นทรัพยากรที่มี ค่าอย่างยิ่ง จึงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความสามารถของพนักงานให้มีความก้าว หน้า มีความมั่นคงในอาชีพและให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมตามความรู้ความสามารถและผลการ ปฏิบัติงาน
  4. คู่ค้า/ เจ้าหนี้
    บริษัทยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจ ด้วยความซื่อสัตย์ อยู่บนพื้นฐานของการปฏิบัติตามสัญญาและภายใต้เงื่อนไขทางธุรกิจที่เป็นธรรม และเสมอภาคต่อคู่ค้า/ เจ้าหนี้
  5. ความซื่อสัตย์ ยุติธรรม และมีคุณธรรมในวิชาชีพ
    บริษัท มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีจรรยาบรรณในการดำเนินงาน โดยยึดหลักความเสมอภาคในการให้บริการอย่างแน่วแน่ ไม่ช่วยเหลือหรือสมยอมให้เกิดการละเมิดกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ตลอดจนจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ
  6. ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
    ความรับผิดชอบ ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในนโยบายของบริษัทที่จะตอบแทนต่อสังคม บริษัทจึงมุ่งปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด, ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนให้มีกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมโดยรวม
  7. ความรับผิดชอบต่อคู่แข่งขันทางการค้า
    บริษัทมีนโยบาย ส่งเสริมการแข่งขันภายใต้กรอบกติกาที่เป็นธรรม โปร่งใส ไม่แสวงหาข้อมูลที่เป็นความลับของคู่แข่งด้วยวิธีการที่ไม่สุจริต และไม่ทำลายชื่อเสียงของคู่แข่งด้วยการกล่าวร้าย หรือกระทำการใดๆ ที่ปราศจากความจริง หรือไม่เป็นธรรม
  8. การรักษาความลับของลูกค้า
    บริษัทสร้างความเชื่อมั่น ให้แก่ลูกค้า โดยปกป้องและรักษาข้อมูลของลูกค้าไว้เป็นความลับ โดยไม่เปิดเผยข้อมูลของลูกค้านอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก ลูกค้าหรือเป็นกรณีที่จำเป็นต้องเปิดเผยตามที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้เท่านั้น
  9. ความรู้ ความสามารถในการประกอบธุรกิจ
    บริษัทจะดำเนิน ธุรกิจในระดับเดียวกับผู้เชี่ยวชาญในวิชาชีพ โดยให้มีการปฏิบัติหน้าที่ตามหลักวิชาการอย่างมีประสิทธิภาพ ผสมผสานด้วยความรู้ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดจนสนับสนุนให้มีการใช้ผู้เชี่ยวชาญในวิชาชีพในการให้บริการแก่ลูกค้า เพื่อบรรลุผลในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และเกิดประโยชน์ต่อลูกค้ามากที่สุด
  10. ยึดถือ และปฏิบัติตามกฎข้อบังคับอย่างเคร่งครัด
    บริษัทยึดมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา โดยการดำเนินธุรกิจของบริษัทจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมาตรฐานของทางการ จรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ และข้อพึงปฏิบัติที่ดีของพนักงาน เพื่อประโยชน์ของลูกค้า และผู้ใช้บริการมากที่สุด
  11. การให้ความร่วมมือต่อองค์กรที่กำกับดูแล
    บริษัทมีนโยบายให้ความร่วมมือต่อองค์กรที่กำกับดูแลบริษัทอย่างเต็มที่ โดยบริษัทจะรายงานข้อมูลข่าวสาร หรือสารสนเทศต่อองค์กรที่กำกับดูแลอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ทันเวลา และสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจของบริษัทเป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี

จรรยาบรรณต่อผู้มีส่วนได้เสีย
 บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น คณะกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า เจ้าหนี้ และภาครัฐ จึงได้กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับจรรยาบรรณต่อผู้มีส่วนได้เสีย ดังนี้

1. ความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น

2. ความรับผิดชอบต่อลูกค้า

3. ความรับผิดชอบต่อคู่ค้า

4. ความรับผิดชอบต่อเจ้าหนี้

5. ความรับผิดชอบต่อคู่แข่งทางการค้า

6. ความรับผิดชอบต่อพนักงาน

7. ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

จรรยาบรรณของกรรมการและผู้บริหาร

บริษัทมุ่งหวังให้กรรมการ และผู้บริหาร แสดงถึงเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัท อย่างโปร่งใส และมีคุณธรรม ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานด้านจริยธรรมที่สูงที่สุดด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ระมัดระวัง และรอบคอบ เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม จึงกำหนดจรรยาบรรณใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติสำหรับกรรมการ และผู้บริหาร ดังนี้

1. ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
2. ดำเนินกิจการของบริษัท ด้วยความซื่อสัตย์ ยุติธรรม โปร่งใสและมีคุณธรรม
3. ปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของบริษัท
4. มีความเป็นอิสระในด้านการตัดสินใจ และการกระทำที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง
5. ปฏิบัติหน้าที่ โดยหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางผลประโยชน์ส่วนตนต่อผลประโยชน์ของบริษัท เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพประสิทธิผล และโปร่งใส รวมถึง

6. ไม่มีผลประโยชน์หรือส่วนได้เสียในกิจการที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยว ข้องกับบริษัท หรือในกิจการที่ มีลักษณะเป็นการแข่งขันกับบริษัท ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรง หรือโดยทางอ้อม
7. รักษาข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัท และผู้มีส่วนได้เสียไม่ให้รั่วไหลไปยังบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทหรือผู้มีส่วนได้เสีย

จรรยาบรรณพนักงาน

ธุรกิจบริษัท เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และสินเชื่อที่มีทะเบียนเป็นประกัน ซึ่งต้องดำเนินอยู่บนพื้นฐานของความน่าเชื่อถือและได้รับความไว้วางใจจากทางการและประชาชนทั่วไป ดังนั้น พนักงานบริษัทควรมีจรรยาบรรณเพื่อยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้

การปฏิบัติต่อตนเอง

  1. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์สุจริต และเที่ยงธรรม มีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ
  2. ศึกษาหาความรู้และขยันหมั่นเพียรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มทักษะในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ
  3. ใช้วิชาความรู้ในการปฏิบัติงานอาชีพอย่างเต็มกำลังความสามารถ ไม่แสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบ
  4. ยึดมั่นในคุณธรรม ละเว้นจากอบายมุขทั้งปวง ไม่ประพฤติตนในทางที่อาจทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของตนเอง
  5. หลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ อันอาจกระทบต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของบริษัท หรือเป็นปัญหาเสื่อมเสียต่อองค์กรในภายหลัง
  6. ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ของตน หรือยินยอมให้ผู้อื่นอาศัยอำนาจหน้าที่ของตน ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม แสวงหาประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่น

การปฏิบัติต่อลูกค้า

  1. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์สุจริต และเที่ยงธรรม มีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ
  2. ศึกษาหาความรู้และขยันหมั่นเพียรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มทักษะในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ
  3. ใช้วิชาความรู้ในการปฏิบัติงานอาชีพอย่างเต็มกำลังความสามารถ ไม่แสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบ
  4. ยึดมั่นในคุณธรรม ละเว้นจากอบายมุขทั้งปวง ไม่ประพฤติตนในทางที่อาจทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของตนเอง
  5. หลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ อันอาจกระทบต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของบริษัท หรือเป็นปัญหาเสื่อมเสียต่อองค์กรในภายหลัง
  6. ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ของตน หรือยินยอมให้ผู้อื่นอาศัยอำนาจหน้าที่ของตน ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม แสวงหาประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่น

การปฏิบัติต่อผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้ร่วมงาน

  1. สนับสนุนให้เกิดความสามัคคี มีการทำงานเป็นทีม ให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือเกื้อกูลในการทำงานซึ่งกันและกันในทางที่ชอบเพื่อประโยชน์ต่องาน ของบริษัท ปฏิบัติต่อผู้ร่วมงานด้วยความสุภาพ มีน้ำใจ มีมนุษย์สัมพันธ์อันดี และให้เกียรติต่อกัน
  2. มีทัศนคติที่ดีต่อผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา และผู้ร่วมงาน ไม่กล่าวร้ายหรือวิพากษ์วิจารณ์โดยปราศจากความจริงและไม่เป็นธรรม หรือกระทำอันก่อให้เกิดความแตกแยกกันในหมู่คณะ
  3. พึงมีสัมมาคารวะและให้เกียรติต่อผู้บังคับบัญชาและผู้มีตำแหน่งสูงกว่า ไม่กระทำการใดๆ ที่ผิดขั้นตอน หรือข้ามสายการบังคับบัญชา
  4. ไม่กระทำการล่วงเกิน คุกคามด้วยพฤติกรรม หรือ ด้วยวาจา ทำให้เกิด หรือ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญทางเพศต่อพนักงาน หรือต่อผู้ใต้บังคับบัญชา
  5. รับฟังความคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับงานในหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชาและบุคคลอื่น และพิจารณานำไปใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ต่องานของบริษัท
  6. ไม่ประพฤติตนไปในทางที่นำความเสื่อมเสีย หรือนำความเสียหายมาสู่หมู่คณะหรือบริษัท 

การปฏิบัติต่อองค์กร

  1. สนับสนุนนโยบายของบริษัท และปฏิบัติตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระเบียบงาน ประกาศ คำสั่งใดๆ ข้อกำหนด และมติคณะกรรมการ หรือหนังสือเวียนของบริษัท โดยเคร่งครัด
  2. ไม่เข้าไปมีส่วนร่วมในการกระทำหรือ ปกปิดการกระทำใดๆ ที่ผิดกฎหาย
  3. ปฏิบัติงานของบริษัทให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ หรือผลเสียหายที่จะมีต่อบริษัทเป็นสำคัญ
  4. มุ่งรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท ติดตามผลงานที่ทำ และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยเร็ว ในเหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน หรือชื่อเสียง หรือผลประโยชน์ของบริษัท
  5. มีทัศนคติที่ดี ไม่กล่าวร้ายต่อบริษัทโดยปราศจากความจริงและไม่เป็นธรรม รักษาชื่อเสียงและเกียรติภูมิของบริษัท ตลอดจนระมัดระวังการแสดงความเห็นต่อบุคคลภายนอกในเรื่องที่อาจกระทบกระเทือน ต่อชื่อเสียงและการดำเนินงานของบริษัท
  6. ไม่ประกอบกิจการหรือลงทุนใดๆ อันเป็นการแข่งขัน หรือเป็นเหตุให้เกิดการขัดผลประโยชน์กับบริษัท หรือเป็นพนักงานประจำหรือพนักงานชั่วคราวในองค์กรอื่นที่ดำเนินกิจการใน ลักษณะเดียวกันหรือคล้ายคลึงกัน หรือบริษัทที่เป็นคู่แข่งขัน หรือมีผลประโยชน์ขัดแย้งกับบริษัท
  7. ให้ความร่วมมือ ดูแล รักษา ระมัดระวัง และใช้ทรัพย์สินของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด และไม่สิ้นเปลืองสูญเปล่าตลอดจนไม่ให้เสื่อมเสียเร็วกว่ากำหนดหรือสูญหาย

การปฏิบัติต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

  1. ช่วยเหลือ และสนับสนุนกิจกรรมที่บริษัทได้จัดขึ้นเพื่อการสังคมต่างๆ อย่างต่อเนื่องทั้งโครงการระยะสั้นและโครงการระยะยาวที่สนับสนุนทั้งองค์กร ภาครัฐและภาคเอกชนในด้านการศึกษา ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และกีฬา
  2. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสภาพแวดล้อมและสังคม คำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมของบริษัทเป็นสำคัญ

การใช้ทรัพย์สินขององค์กร

  1. พนักงานต้องงดเว้นการใช้ทรัพย์สิน อุปกรณ์และเวลาปฏิบัติงานของบริษัทเพื่อประโยชน์ส่วนตน ตลอดจนงดเว้นการนำตำแหน่งหน้าที่ และความเกี่ยวข้องกับบริษัทของตนไปแสดงออก เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ผลประโยชน์ทางการเมืองหรือเพื่อสนับสนุนพรรคการเมืองใดๆ
  2. พนักงานต้องไม่เจตนาทำลายหรือทำให้ทรัพย์สินของบริษัทเสียหาย
  3. พนักงานต้องไม่หาประโยชน์ส่วนตนจากทรัพย์สินของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ของบริษัท เพื่อกิจธุระส่วนตัว การนำทรัพย์สินไปขาย ให้ยืม จำนำ จำนอง หรือ จำหน่ายจ่ายโอนโดยไม่ได้รับอนุญาต
  4. ในการจัดซื้อ เก็บรักษาและจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สิน ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบ และวิธีปฏิบัติที่บริษัทกำหนด

ความขัดแย้งทางผลประโยชน์

  1. พนักงานต้องยึดถือประโยชน์ของบริษัท ภายใต้ความถูกต้องตามกฎหมาย และจริยธรรม ไม่มีการเอื้อประโยชน์หรือให้สิทธิพิเศษแก่บุคคลใดเพื่อให้ตนได้รับประโยชน์ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
  2. ต้องไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการขัดต่อผลประโยชน์ของบริษัทไม่ว่าจะเกิดจากการติดต่อกับผู้เกี่ยวข้องทางการค้าของบริษัท เช่น คู่ค้า คู่แข่ง หรือจากการใช้โอกาส หรือที่ได้ข้อมูลจากการเป็นพนักงานในการหาประโยชน์ส่วนตน และในเรื่องการทำธุรกิจที่แข่งกับบริษัท หรือการทำงานอื่นนอกเหนือจากงานของบริษัท ซึ่งส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของบริษัท
  3. ต้องเปิดเผยสถานะส่วนตัวหรือธุรกรรมใด ๆ ที่อาจให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ หรือทำให้เกิดความเข้าใจว่ามีความขัดแย้งทางผลประโยชน์

การรักษาความลับของบริษัท

  1. รักษาความลับของบริษัท ดูแลและระมัดระวังมิให้เอกสารหรือข่าวสารอันเป็นความลับของบริษัทรั่วไหล รวมทั้งการไม่ให้ข่าวสารหรือเอกสารใดที่ไม่พึงเปิดเผยแก่บุคคลที่ไม่เกี่ยว ข้อง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากบริษัท
  2. ไม่นำเอกสาร หรือข้อมูลของลูกค้าไปใช้เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือบุคคลอื่น
  3. ไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่เป็นความลับของบริษัท
  4. ไม่เปิดเผยค่าจ้าง เงินเดือน เงินรางวัลพิเศษ หรืออัตราการขึ้นเงินเดือนของตนเองหรือของบุคคลอื่น ให้ผู้ที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องทราบ
  5. กรณีที่พนักงานได้รับการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลความลับของ ลูกค้า ของบริษัท ของตนเองหรือของบุคคลอื่น จะต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับผู้จัดการสาขา หรือผู้บังคับบัญชาตามสายงานทราบ และต้องได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

การเรียกหรือรับผลประโยชน์อันเป็นสิ่งจูงใจ

  1. ไม่เรียกร้อง หรือรับของกำนัล หรือผลประโยชน์อื่นใดจากลูกค้า รวมถึงการรับสินค้า หรือการบริการในราคาพิเศษ ซึ่งเป็นราคาที่ไม่ได้ใช้กับบุคคลทั่วไป
  2. ไม่กู้ยืมเงินจากลูกค้า หรือบุคคลที่มีส่วนได้เสีย
  3. ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในกิจการของลูกค้า ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
  4. ไม่รับค่าตอบแทน เงินสด หรือข้อเสนอผ่อนปรน หรือ ข้อเสนอพิเศษ (รวมทั้งหุ้น) จากลูกค้า ผู้ร่วมธุรกิจหรือจากบุคคลอื่นใดๆ
  5. หากได้รับเชิญจากลูกค้าหรือผู้ร่วมธุรกิจของบริษัท ให้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ก่อน/ หลังเปิดขายต่อสาธารณะชน พนักงานจะต้องขออนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษร และต้องได้รับการอนุมัติก่อนที่จะทำการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นั้น

การทำงานอื่นหรือกิจกรรมภายนอก/ การร่วมเป็นวิทยากรภายนอก และการเขียนบทความเผยแพร่สู่สาธารณชน
    1. ไม่สนับสนุนให้รับงานอื่นที่นอกเหนือจากงานของบริษัท รวมทั้งการรับตำแหน่งเป็นกรรมการของบริษัทภายนอก รับเป็นที่ปรึกษา หรือรับงานในกิจการภายนอกบริษัท                    พนักงานที่จะประสงค์จะรับตำแหน่ง หรือรับทำงานให้กับองค์กรอื่น จะต้องได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท
    2. พนักงานที่ประสงค์จะทำงานในกิจการอื่นใดนอกเหนือจากงานบริษัท หรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางธุรกิจกับองค์กรภายนอก จะต้องได้รับการอนุมัติจากบริษัทก่อน
    3. การเข้าร่วมกิจกรรมในองค์กรภายนอกดังกล่าว พนักงานจะต้องยื่นขออนุมัติเป็นการล่วงหน้า และหากจำเป็นในการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ควรยึดแนวปฏิบัติดังนี้

    4. การเข้าร่วมหรือมีส่วนร่วม หรือรับตำแหน่งในองค์กรที่เกี่ยวกับวิชาชีพ ร่วมกิจกรรมของมูลนิธิการกุศล ศูนย์ชุมชน โบสถ์ หรือสมาคมของชุมชนสามารถกระทำได้          หากการดำเนินการนั้นไม่เป็นการขัดต่อผลประโยชน์ของบริษัท และจะต้องแจ้งเพื่อให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษร
    5. การเข้าร่วมกิจกรรมในกลุ่มองค์กรทางวิชาชีพ กลุ่มองค์กรท้องถิ่น หรือมีบทบาทโดยตรงหรือโดยอ้อมในกิจกรรมทางการเมือง จะต้องแจ้งให้องค์กรนั้นๆ         ได้ทราบอย่างชัดเจนว่าการร่วมกิจกรรมเป็นเรื่องส่วนตัว มิใช่ในฐานะตัวแทนของบริษัท
    6. พนักงานผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท ที่เข้าร่วมกิจกรรมกับองค์กรหรือสถาบันอื่น จะต้องไม่ดำเนินการใดๆ ในการเป็นผู้ทำการอนุมัติรายการทางบัญชี         รวมถึงจะต้องไม่เป็นผู้อนุมัติเกี่ยวกับสินเชื่อทุกประเภทให้แก่องค์กร หรือสถาบันนั้น
    7. พนักงานที่ได้รับเชิญจากสถาบันภายนอกให้ไปเป็นวิทยากร หรือ พนักงานที่ประสงค์จะเขียนบทความเผยแพร่ต่อสาธารณชนทั่วไป         พนักงานจะต้องใช้ดุลยพินิจในการรับคำเชิญนั้น
    8. ในการเป็นวิทยากร หรือ การเขียนบทความเพื่อเผยแพร่ พนักงานจะต้องไม่ใช้ข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัท นอกเสียจากว่าจะได้รับอนุญาตจากบริษัทแล้วเท่านั้น
    9. พนักงานจะต้องระบุไว้อย่างชัดแจ้ง ในบทความต่างๆ ที่เขียนว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของพนักงานเอง ไม่ใช่ความเห็นของบริษัท         และพนักงานจะต้องยื่นคำขออนุมัติพร้อมแนบเอกสารเกี่ยวกับเนื้อเรื่องที่พูด ในฐานะวิทยากร หรือเนื้อเรื่องที่เขียนเพื่อเผยแพร่         และต้องได้รับการอนุมัติจากบริษัทก่อนไปเป็นวิทยากร หรือการเขียนบทความเพื่อเผยแพร่ 

การรับของขวัญและการเลี้ยงรับรอง

  1. บริษัทไม่มีนโยบายสนับสนุนให้พนักงานรับของขวัญใดๆ จากลูกค้าและผู้ร่วมธุรกิจกับบริษัท ซึ่งรวมถึง ผู้ขายสินค้า/ บริการ คู่สัญญาทางธุรกิจกับบริษัท หรือจากบุคคลใดๆ เว้นกรณีที่เป็นเทศกาลสำคัญ และต้องมีมูลค่าไม่เกิน 3,000 บาท กรณีที่มูลค่าเกินต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบว่าเป็นการผิดระเบียบของบริษัท และคืนให้แก่ลูกค้า กรณีที่ไม่สามารถคืนได้ให้ส่งมอบให้กับผู้บังคับบัญชาตามสายงานเพื่อดำเนินการต่อไป
  2. พนักงานต้องหลีกเลี่ยงการเลี้ยงรับรอง หรือการแลกเปลี่ยนของกำนัล ที่มีมูลค่าสูงเกินสมควรหรือมีความถี่เกินสมควร เว้นแต่เป็นการเลี้ยงรับรองเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ และเป็นการรักษาสัมพันธภาพทางธุรกิจโดยปกติ
  3. พนักงานที่ไปร่วมงานเลี้ยงรับรอง หรือร่วมกิจกรรมกีฬา หรืองานเลี้ยงอาหาร งานรื่นเริง งานเปิดตัวสินค้า พิธีเปิดงาน ฯลฯ ซึ่งจัดโดยผู้ร่วมธุรกิจ โดยผู้ร่วมงานมาจากหลากหลายองค์กร และผู้มาร่วมงานทุกคนจะได้รับของขวัญ หรือของชำร่วย หรือมีการชิงรางวัล หากพนักงานได้รับของขวัญ หรือของรางวัลในงานดังกล่าว พนักงานไม่จำเป็นต้องแจ้งต่อบริษัท
  4. พนักงานต้องไม่รับของกำนัลจากผู้ใต้บังคับบัญชา หรือให้ของกำนัลกับผู้บังคับบัญชา

การติดตามดูแลให้มีการปฏิบัติตาม

  1. บริษัทให้ถือเป็นภาระหน้าที่และความรับผิดชอบของกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคนที่จะต้องรับทราบ ทำความเข้าใจ และปฏิบัติตามข้อพึงปฏิบัติที่กำหนดไว้ในจรรยาบรรณธุรกิจนี้อย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีการฝ่าฝืนหรือกระทำการใดๆ ที่ขัดต่อจริยธรรมธุรกิจ บริษัทจะพิจารณาและดำเนินการตามความเหมาะสม และในกรณีที่การกระทำดังกล่าวขัดต่อระเบียบและข้อบังคับการทำงาน บริษัทจะพิจารณาดำเนินการลงโทษตามลักษณะเหตุตามแต่ละกรณี
  2. ผู้บริหารทุกระดับมีหน้าที่สอดส่องดูแลและรับผิดชอบที่จะดำเนิน การให้พนักงานภายใต้บังคับบัญชาของตนปฏิบัติทราบ เข้าใจ และปฏิบัติตามจรรยาบรรณของบริษัทนี้อย่างจริงจัง
  3. เมื่อมีข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติตามจรรยาบรรณ สามารถสอบถามผู้บังคับบัญชา หรือ อาจขอคำปรึกษาทีมพนักงานสัมพันธ์ ด้านบริหารทรัพยากรบุคคล ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบชี้แจงให้ทราบถึงวิธีในการปฏิบัติตามจรรยาบรรณ
  4. คณะทำงานกำกับดูแลกิจการที่ดี ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทยมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดทำจรรยาบรรณ และปรับปรุงให้เหมาะสมเป็นประจำอย่างน้อยทุก 2 ปี และนำเสนอคณะกรรมการบริษัทเพื่อขอความเห็นชอบ


ท่านสามารถอ่านรายละเอียด หลักจริยธรรมและหลักจรรยาบรรณได้ที่นี่