ร่วมงานกับเรา
ข่าวสารรถจักรยานยนต์ทั่วไป > 2548 > ดาราวัยโจ๋กับมอเตอร์ไซค์ ภาพลักษณ์ที่ "ขาย" ในวัยซิ่ง
ดาราวัยโจ๋กับมอเตอร์ไซค์ ภาพลักษณ์ที่ "ขาย" ในวัยซิ่ง
ที่มา - คมชัดลึก วันที่ 11 พ.ย.48

ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ดูเหมือนโฆษณารถจักรยานยนต์จะนิยมใช้พรีเซ็นเตอร์โฆษณาเป็นนักร้องขวัญใจวัยโจ๋ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ ที่ดูเหมือนจะอยู่ในช่วงของการแข่งขันกันอย่างสูง บรรดารถจักรยานยนต์หลากหลายยี่ห้อ ต่างก็ดึงนักร้องที่ฮอตฮิต มาช่วยโฆษณาสินค้ากันสุดฤทธิ์

ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า สปาร์ค 135 ก็ดึงเอากลุ่มนักร้องขวัญใจวัยรุ่น อย่างวง บอดี้สแลม มาโฆษณา โดยมี ตูน นักร้องนำเป็นตัวชูโรง ประกบคู่กับนางเอกฮอต "ปู" ไปรยา สวนดอกไม้ ด้วยภาพยนตร์โฆษณาที่มีเนื้อหาว่า ฝ่ายหญิงถูกพวกจิ๊กโก๋มีเงินจีบ แต่สาวเจ้าไม่เล่นด้วย รอคอยแต่คนรักของเธอ และแล้ว หนุ่มคนรักก็มาช่วยด้วยการบิดมอเตอร์ไซค์มาอย่างเท่ พาสาวนั่งซ้อนท้ายไปเฉิบ ทำเอาหนุ่มมีรถยนต์ถึงกับอึ้ง เพราะสู้มอเตอร์ไซค์ไม่ได้ แถมยังมีเพลงออกมาประกอบโฆษณา ถึงขนาดทำเป็นมิวสิควิดีโอเต็มๆ เลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีการดึงดูดด้วยการมีคอนเสิร์ตจากพรีเซ็นเตอร์เอง ซึ่งได้รับความสนใจจากวัยรุ่นไม่น้อยเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ยามาฮ่า รุ่น เอ็กซ์ วัน ก็ดึงเอานักร้องกลุ่มที่ฮอตไม่แพ้กัน อย่าง วง ซิลลี่ ฟูลส์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยเหมือนกัน โดยทาง ยามาฮ่า กล่าวว่า รถจักรยานยนต์รุ่นนี้ ตั้งใจทำออกมาเพื่อดึงดูดกลุ่มวัยรุ่นชายเป็นหลัก ส่วนสาเหตุที่ใช้วงนี้เป็นพรีเซ็นเตอร์ ทาง ยามาฮ่า กล่าวว่า เพราะเป็นกลุ่มศิลปินที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นเป้าหมายหลัก

อีกหนึ่งรุ่นของ ยามาฮ่า คือรุ่น สปาร์ค เอ็กซ์ ก็ดึงเอานักร้องกลุ่มวัยรุ่นอย่าง กะลา มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เจาะตลาดวัยรุ่น แถมใช้สโลแกนสุดเท่ กับ "พันธุ์แท้...แน่ที่ใจ" ขณะที่วงเพื่อนซี้อย่าง แคลช ก็ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยเหมือนกัน กับรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นมีโอ และ เสก โลโซ เองก็กลับมาโฆษณาให้กับรุ่น นูโว

ส่วนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เขาก็ดึงตัวศิลปินกลุ่มร็อคยอดนิยมอันดับหนึ่งที่บรรดาวัยรุ่นนิยมชมชอบอย่าง วง บิ๊กแอสส์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยเหมือนกัน ในรุ่น เวฟ 125 i ตัวจริงของความเร้าใจ เจาะใจแฟนๆ วัยรุ่นทั่วประเทศ แถมมีเพลง "นี่แหละไอ" ซึ่งแต่งเนื้อร้อง ทำดนตรี และขับร้องเองของบิ๊กแอสส์ พร้อมกิจกรรมร่วมกับศิลปินอีกเพียบ

ฟากของ ซูซูกิ ก็ดึงเอา วง โปเตโต้ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์รถจักรยานยนต์สายพันธุ์ใหม่ Suzuki Step 125 กับคอนเซ็ปต์ แรงดี...สนุกกว่า ส่วนในรุ่น คาทาน่า ก็ยังดึงเอานักร้องสาวอินเตอร์อย่าง "ทาทา" อมิตา มาเรีย ยัง มาโฆษณาด้วยเหตุผลว่าเธอเป็นนักร้องอินเตอร์ น่าจะเป็นตัวแทนที่จะสามารถสื่อสารถึงรถจักรยานยนต์ระดับโลกอย่าง ซูซูกิ ได้เป็นอย่างดี

จากการที่บรรดาบริษัทรถจักรยานยนต์ ต่างพร้อมใจกันดึงนักร้องขวัญใจวัยรุ่นมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ขนาดนี้ ย่อมเป็นที่บ่งชี้แน่นอนแล้วว่า ต้องการจะเจาะกลุ่มเป้าหมายใด เพราะด้วยรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย เร้าใจของพาหนะชวนให้ขับขี่แล้ว ยังปฏิเสธไม่ได้ด้วยว่า ตัวพรีเซ็นเตอร์นักร้องดังเหล่านี้ ยังเป็นเสมือนไอดอลที่เหล่าวัยรุ่นอยากเอาเป็นแบบอย่างด้วย

แล้วมันจะเป็นสิ่งที่สมควรหรือเปล่า กับการที่จะดึงนักร้องขวัญใจพวกเขาเหล่านี้ มาช่วยส่งเสริมการขาย แน่นอนว่ายอดต้องทะลุเป้า แต่ในเรื่องของปัญหารถจักรยานยนต์ซิ่งล่ะ

ครูยุ่น มนตรี สินทวิชัย ส.ว.สมุทรสงคราม เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก กล่าวว่า วัยรุ่นคือกลุ่มเป้าหมายของการขายรถจักรยานยนต์ ซึ่งรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิง จะเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นมาก และส.ว.คนดังยังชี้ว่า ที่จริงแล้ววัยรุ่นไม่ได้นิยมในเรื่องการใช้งาน แต่เป็นเรื่องของการซิ่ง จับกลุ่มประชันความเร็ว การแต่งรถ เครื่องประดับรถยนต์ต่างๆ ที่ทำมาเพื่ออวดสาว เพศตรงข้าม

"ที่สำคัญคือบางคนยังไม่มีใบขับขี่ เพราะกระแสโฆษณาพวกนี้จะย้ำเรื่องความนิยม มันก็กลายเป็นสิ่งที่พ่อแม่ก็ห้ามไม่ได้ ก็ต้องซื้อให้ลูก ให้หลาน ทั้งที่ไม่มีใบขับขี่ อีกอย่างร้านขายในต่างจังหวัด ก็ใช้วิธีวางเงินดาวน์ถูก ก็ยิ่งจูงใจให้ซื้อไปใหญ่ ทำให้ค่านิยมของวัยรุ่นไปในทางที่ผิด ยึดตามอย่างกระแสโฆษณาด้วย ถามว่าผมเห็นด้วยไหม กับการที่ให้ศิลปินมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ผมไม่เห็นด้วย แต่สังคมปัจจุบันปฏิเสธเงินไม่ได้ ทั้งนี้มันก็อยู่ที่จิตสำนึกของคนทำธุรกิจ ถ้าเขาจะเจาะแต่เรื่องค้าขายอย่างเดียว มันก็ไม่มีอะไรจะไปดึงรั้งเขาด้วย แต่ผมว่าคนเราก็ไม่ควรจะเห็นแก่เงินจนเกินไป

ผมอยากให้คนทำธุรกิจคำนึงถึงเรื่องการใช้งานมากกว่า ที่จะเน้นการโชว์รถ ทำยังไงให้ถูกกฎหมาย เช่น โฆษณาว่าจะช่วยประหยัดยังไง เรื่องการรักษาความปลอดภัย รายได้การขายอาจจะไม่เข้าเป้า แต่อย่างน้อยมันก็แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย" ครูยุ่น กล่าว

ความจริงที่ทุกคนรู้กันดีก็คือ การผลิตสินค้าเพื่อให้ขายได้มากๆ นั้นคือเป้าหมายของเจ้าของสินค้าไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตาม แต่ทั้งนี้สิ่งที่สังคมควรต้องทำความเข้าใจก็คือว่า ผลที่ตามมาจากการบริโภคนั้นได้ก่อให้เกิดอะไรบ้างต่อสังคม