ร่วมงานกับเรา
ข่าวสารรถจักรยานยนต์ทั่วไป > 2549 > เยี่ยมชมบ้านเกิดฮอนด้าจุดประกายพลังแห่งความฝัน
เยี่ยมชมบ้านเกิดฮอนด้าจุดประกายพลังแห่งความฝัน
ที่มา – ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 20 เม.ย.49

ช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัท เอเชียน ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองไทย ได้พาครอบครัวฮอนด้า จำนวน 15 ชีวิต ที่ผ่านการคัดเลือกในกิจกรรม "หนึ่งภาพ... เรียงร้อยความผูกพัน" ซึ่งจัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี ของ ฮอนด้า ในประเทศไทย ร่วมเดินทางตามรอยประทับใจ สู่บ้านเกิดของ ฮอนด้า ณ ประเทศญี่ปุ่น

การเดินทางครั้งนี้เปิดโอกาสให้บรรดาครอบครัวฮอนด้าในประเทศไทย ได้สัมผัสกับ "ทวิน ริง โมเตกิ" และ "ฮอนด้า คอลเล็กชั่นฮอลล์" ซึ่งเป็นอาณาจักรที่รวบรวมประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษของฮอนด้า

พลังความฝันที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง
ประวัติความเป็นมาของฮอนด้าเกิดจากความเชื่อว่า "พลังความฝันที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง" ของ "โชอิชิโร่ ฮอนด้า" ซึ่งย้อนหลังไปเมื่อปี 2491 ที่โชอิชิโร่ ฮอนด้า ได้ก่อตั้งบริษัทฮอนด้า มอเตอร์ขึ้น เพื่อนำเสนอประดิษฐกรรมยานยนต์ที่ช่วยสร้างความสะดวกสบายในการเดินทางให้กับผู้คน โดยเริ่มจากรถจักรยานติดมอเตอร์ไฟฟ้า

จากความใฝ่ฝันที่จะนำเสนอยานพาหนะเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ผสานกับความมุ่งมั่นที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เป็นแรงพลังผลักดันที่ทำให้โชอิชิโร่ ฮอนด้า และทีมงานมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

จากความสำเร็จในการผลิตรถจักรยานยนต์ ก้าวสู่ความท้าทายในการผลิตรถยนต์ และขยายสู่ลูกค้าทั่วทุกมุมโลก โดยปัจจุบัน ฮอนด้ามีเครือข่ายการผลิตและลูกค้าใน 129 ประเทศทั่วโลก

จากพลังความฝันที่ไม่มีหยุดนิ่ง และจิตวิญญาณแห่งความท้าทาย ของ "โชอิชิโร่ ฮอนด้า" ได้ถูกถ่ายทอดให้ชาวฮอนด้าทุกคน จนกลายเป็นเสมือนดีเอ็นเอ อันเป็นเอกลักษณ์และเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดนวัตกรรมทางยานยนต์ล้ำสมัย รวมถึงการก้าวล้ำหน้าสู่การพัฒนารูปแบบแห่งการเคลื่อนที่อันล้ำยุค

ความผูกพันฮอนด้ากับสังคมไทย
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2507 จักรยานยนต์ฮอนด้า Super Cub ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของสังคมไทย นับแต่นั้นมาฮอนด้าได้เติบใหญ่ ขยายตัวจากความรู้สึกดีๆ ด้วยความไว้วางใจที่คนไทยมอบให้ สู่การเข้ามาของรถยนต์ฮอนด้าในปี 2526 เริ่มต้นที่รถยนต์ 2 รุ่นแรก คือ ฮอนด้า แอคคอร์ด และฮอนด้า ซีวิค จนวันนี้เป็นเวลา 40 ปีแล้ว ที่รถจักรยานยนต์และรถยนต์ รวมถึงผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์อเนกประสงค์ของฮอนด้า ได้รับการยอมรับจากคนไทยอย่างกว้างขวาง

ฮอนด้าได้ก่อตั้งโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์แห่งแรก ภายใต้ชื่อ บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ขึ้นในปี 2508 ด้วยยอดการผลิตรุ่น Super Cub C50 เพียงปีละ 494 คัน จักรยานยนต์ฮอนด้าซึ่งผลิตโดยฝีมือคนไทย ได้รับการยอมรับจากสังคมไทยด้วยดีตลอดมา โดยมียอดการผลิตในปัจจุบันปีละถึง 1.5 ล้านคัน
จนถึงวันนี้ฮอนด้าสามารถครองความเป็นผู้นำในการผลิต และจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยได้อย่างเหนียวแน่น และยังได้ส่งออกไปในอีกกว่า 35 ประเทศทั่วโลก

ระยะเวลาตลอด 40 ปีแห่งประวัติศาสตร์การผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ฮอนด้าได้ผลิตรถจักรยานยนต์รวมกว่า 50 รุ่น และมียอดการผลิตสะสมมากถึงกว่า 12 ล้านคัน

ด้วยความผูกพันอันยาวนานของฮอนด้ากับสังคมไทย กลายเป็นความภาคภูมิใจที่มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย และได้รับการต้อนรับอย่างดีเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน

จากปี 2527 ที่เริ่มผลิตรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค เป็นรุ่นแรก ภายใต้การร่วมลงทุนกับ บริษัท บางชัน แอสเซมบลี จำกัด สู่การตั้งโรงงานเป็นของตนเองที่มีนบุรี เพื่อผลิตรถยนต์ฮอนด้ารุ่นแอคคอร์ด และขยายสู่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา ในปี 2539

จนถึงวันนี้ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด โรงงานประกอบรถยนต์ของฮอนด้า เป็นโรงงานที่มีกระ บวนการผลิตที่ทันสมัย ครบวงจรมากที่สุดในประ เทศไทย โดยมีกำลังการผลิตรถยนต์ ปีละกว่า 120,000 คัน รวมทั้งหมด 5 รุ่น ด้วยเครือข่ายตัว แทนจำหน่ายและศูนย์บริการรวม 130 แห่งทั่วประเทศ

สัมผัสทวิน ริง โมเตกิ
สนามแข่งทวิน ริง โมเตกิ (Twin Ring Motegi) ถูกสร้างและออกแบบให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ซึ่งเป็นป่าโปร่งและเทือกเขา โดยครั้งแรกฮอนด้าได้สร้างสนามแข่งรถซูซูกะ เซอร์กิต ในปี 2505 เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันรถสปอร์ตขึ้นในประเทศญี่ปุ่น และสนามแข่งรถซูซูกะ ยังเป็นเวทีทดสอบสมรรถนะสำหรับรถที่มีความเร็วสูงระดับโลก ก่อให้เกิดพัฒนาการยนตรกรรมของประเทศญี่ปุ่น ในช่วงทศวรรษ 60 และ 70 สามทศวรรษต่อมา ฮอนด้าได้ตอบสนองความต้องการของยุค มอเตอไรเซชั่น ด้วยการเผยโฉมสนาม "ทวิน ริง โมเตกิ"

สนามทวิน ริง โมเตกิ ตั้งอยู่บนเทือกเขาทางทิศเหนือจากกรุงโตเกียวประมาณ 100 กิโลเมตร ประกอบด้วยสนามซึ่งเป็นถนนแบบยุโรปชั้น 1 และสนามแข่งวงรีแบบอเมริกัน ที่เรียกว่าอินดี้สไตล์ ในบริเวณใกล้เคียงมีสนามแข่งเล็กๆ อีกจำนวนหนึ่ง โรงแรม ทวิน ริง โมเตกิ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กัน มีห้องพัก 135 ห้อง มีสถานที่ตั้งแคมป์ สถานที่แห่งใหม่สำหรับแสดงผลิตภัณฑ์ (Honda collection hall) ซึ่งย้ายมาจากซูซูกะ และสนามฝึกขับขี่ปลอด ภัย ซึ่งเป็นการจำลองพื้นที่วิบากสำหรับฝึกขับรถ

ทวิน ริง โมเตกิ ของฮอนด้า เป็นสถานที่ใช้ในการพัฒนายนตรกรรมสำหรับศตวรรษที่ 21 ซึ่งจะเป็นรถยนต์ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมมากที่สุด โดยบริเวณที่เป็นสนามแข่งรถมีเนื้อที่ประมาณ 35% ของที่ดิน จำนวนทั้งสิ้น 640 เฮกเตอร์ ที่เหลือได้รับการอนุรักษ์ตามหลักนิเวศวิทยาให้คงสภาพมากที่สุด

เมื่อช่วงเริ่มต้นในการวางแผนสร้าง "ทวิน ริง โมเตกิ" ได้มีการสำรวจสถานที่ และระบบนิเวศของบริเวณนี้อย่างละเอียด รวมทั้งคุณภาพของป่า สัตว์ป่า ทางน้ำ และลักษณะของพื้นที่ ที่น่าสังเกตคือ ป่าที่มีอยู่แล้วเป็นป่ามนุษย์ปลูกเมื่อเกือบร้อยปีที่ผ่านมา สำหรับใช้ไม้ทำฟืนและอุตสาหกรรมสร้างบ้านไม้ และเจริญงอกงามต่อมา ถ้าหากมนุษย์ไม่เข้าไปจัดการป่าแห่งนี้ก็จะเสื่อมโทรมไปในที่สุด เพื่อให้ป่ายังคงอยู่ ฮอนด้าได้จัดให้มีการกำจัดวัชพืชเป็นประจำ รวมทั้งการตัดแต่งกิ่งไม้และลำต้น ไม้ที่ตัดออกไปใช้เพื่อเป็นฟืนสำหรับโรงแรม ทวิน ริงฯ

ฮอนด้าได้สร้างระบบทางเดินน้ำ โดยสร้างท่อต่างๆ เพื่อให้น้ำไหล และสร้างระบบท่อระบายน้ำใช้ ที่ไม่เกิดผลเสียต่อร่องน้ำธรรมชาติ มีการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กขึ้นหลายแห่ง เพื่อควบคุมน้ำที่ระบายออกมาจากบริเวณอาคาร ป้องกันมิให้น้ำเหล่านี้ไหลลงสู่แม่น้ำและลำธารในป่า ซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วม หรือการสึกกร่อนของผิวดิน

นอกจากนั้น ฝ่ายบริหารของ ทวิน ริง โมเตกิ ได้มีมาตรการในการคุ้มครองสัตว์ป่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการก่อสร้างตั้งแต่เริ่มโครงการ มาตรการหนึ่ง คือ การโยกย้ายสัตว์ป่าที่อยู่อาศัยในที่ลุ่มมีน้ำขัง และแมลงต่างๆ ไปสู่บริเวณที่เตรียมไว้ให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์เหล่านี้

และเพื่อเป็นการประกันว่า เสียงที่เกิดจากการแข่งรถจะลอยขึ้นสูง แทนที่จะกระจายไปตามบริเวณที่เป็นเมืองรอบข้าง และอาคารใกล้เคียง ทวิน ริง โมเตกิ จึงสร้างขึ้นในพื้นที่ที่เป็นแอ่งลึกลงไปในดิน ประมาณ 70 เมตร ล้อมรอบด้วยภูเขา โคมไฟที่ติดตั้งในสนามแข่งรถจึงหันลงต่ำ โดยออกแบบสนามที่เป็นรูปถ้วย ทำให้ต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์ที่เที่ยงตรงและแม่นยำ และระบบสำรวจที่ใช้ข่ายดาวเทียมอันทันสมัย (GPS) เพื่อช่วยในการขนดินที่ต้องใช้รถบรรทุกกว่า 2 ล้านเที่ยว ออกจากบริเวณก่อสร้าง และหินภูเขาก้อนโตที่มีอยู่ในบริเวณก่อสร้างนั้นมีประโยชน์มาก เพราะนำมาบดย่อยใช้เป็นส่วนหนึ่งของวัสดุก่อสร้างถนนได้

ทั้งนี้การก่อสร้างสนามแข่งรถในป่า ย่อมต้องมีการตัดป่าและโค่นต้นไม้เท่าที่จำเป็น แต่ฮอนด้าได้เริ่มดำเนินโครงการปลูกป่า ซึ่งเป็นโครงการระยะยาวถึง 30 ปี ขณะนี้ฮอนด้าได้ปลูกต้นไม้คืนป่าไปแล้วประมาณ 20,000 ต้น และได้ปลูกไม้ผลที่มีดอกสวยงาม เช่น เชอร์รี่ ในบริเวณที่เป็นที่สาธารณะ

นอกจากนั้น ฮอนด้ายังได้มีโครงการตรวจสอบระบบนิเวศวิทยา เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อมที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยมีการตรวจสอบมลพิษ (อากาศ น้ำ เสียง ความสั่นสะเทือน) เป็นประจำ รวมทั้งดูแลและคุ้มครองสัตว์ป่า ต้นไม้ ร่องน้ำและอื่นๆ

ขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกกำลังก้าวไปข้างหน้า ฮอนด้ายังคงเดินทางและดำเนินการทุกวิถีทางในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อความอยู่รอดของโลกและมนุษยชาติ

ฮอนด้า คอลเล็กชั่นฮอลล์
นอกจากนี้ ภายในทวิน ริง โมเตกิแห่งนี้ยังประกอบไปด้วย ฮอนด้า คอลเล็กชั่นฮอลล์ (Honda Collection Hall) ซึ่งเป็นที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นหลากหลาย จากประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษของฮอนด้า ผลิตภัณฑ์ฮอนด้าจำนวนมากที่นำออกแสดง มีทั้งรถจักรยานที่ใช้มอเตอร์เสริมแรงคันแรก ที่ผู้ก่อตั้งบริษัทฮอนด้า "โชอิชิโร ฮอนด้า" สร้างขึ้น รถจักรยานยนต์ที่เข้าประลองแข่งขันใน Isle of Man TT Race รถแข่งและรถจักรยานยนต์ที่ลงแข่งและคว้าชัยชนะในสนามแข่งต่างๆ รวมทั้งรุ่นที่ผลิตออกจำหน่ายในตลาด

ฮอนด้า คอลเล็กชั่นฮอลล์แห่งนี้จึงเปรียบเสมือนเส้นทางแห่ง "ความฝันของฮอนด้า" โดยยานยนต์เหล่านี้ได้รับการดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ และสามารถนำออกขับขี่ได้ตลอดเวลา รถแข่งและรถจักรยานยนต์ดังกล่าวจะนำออกมาทดลองขับขี่ในสนามและตามถนนที่กำหนดไว้ปีละ 2-3 ครั้ง

เยี่ยมบ้าน "อาซิโม่"
ฮอนด้า แฟน ฟัน แล็บ (Fan Fun Lab) เป็นสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยความฝันสำหรับอนาคต ประกอบด้วยโซนต่างๆ คือ Environment Lab นำเสนอแนวคิดต่างๆ เกี่ยวกับยานขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโลก Safety Lab นำเสนอเทคโนโลยีความปลอดภัยหลากหลายสำหรับยานยนต์ Transportation Lab นำเสนอเรื่องระบบการขนส่งแห่งอนาคต The Next Lab พบกับวิวัฒนาการและความสามารถของ "อาซิโม่" หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ที่สุดในโลกตัวแรกของโลก

ยังมีป่าเฮลโล วูดส์ (Hello Woods) ซึ่งเป็นป่าลูกโอ๊กและนัตหลากชนิด รวมทั้งไม้ใบกว้างที่ทิ้งใบในฤดูใบไม้ร่วง อย่างเช่น โอ๊กและไวต์โอ๊ก ในป่านี้ชีวิตรูปแบบต่างๆ นับไม่ถ้วนดำเนินไปตามวัฏจักร ของมันตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ที่ประจำการอยู่บริเวณป่านี้จะทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์พาท่านชมป่า ซึ่งเป็นเสมือนห้องฝึกปฏิบัติทางหัตถกรรมใช้วัสดุที่ได้จากป่า ซึ่งเด็กๆ จะชอบห้องนี้มาก เฮลโล วูดส์ เป็นสวนสนุกในป่าที่ท่านสามารถสัมผัสประสบการณ์ใหม่และค้นพบสิ่งใหม่ๆ ได้ทุกครั้งที่แวะมาเยือน

ศูนย์ฝึกการขับขี่ปลอดภัย
ศูนย์ฝึกการขับขี่ปลอดภัย (Active Safety Training Park) เป็นสถานที่ที่สามารถสัมผัสสถานการณ์อันตราย ที่อาจเกิดขึ้นจริงบนท้องถนนในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ขณะสนุกสนานกับการขับขี่และบังคับรถ สามารถเรียนรู้ถึงวิธีบังคับควบ คุมรถอย่างปลอดภัย โดยผ่านหลักสูตรที่หลากหลาย และได้รับความเพลิดเพลินกับประสบการณ์การเรียนรู้ ทักษะพื้นฐานในการขับขี่ และควบคุมรถบนถนนลื่น รวมทั้งเทคนิคการเบรกซึ่งเป็นเรื่องหนึ่งที่ยากที่สุดในการขับรถ

นอกจากนี้ ยังมี Honda Driving School และ Honda Motocyclish School รวมทั้งโปรแกรมเชิงปฏิบัติการที่เปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้เทคนิควิธีขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์อย่างถูกต้อง รวมทั้งการสร้างความเข้าใจในภาพรวม

จากภาพความประทับใจตั้งแต่ฮอนด้าเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกของสังคมไทย กระทั่งกลายเป็นความผูกพันมาตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี หลังจากที่ฮอนด้าได้พาครอบครัวฮอนด้าประเทศไทยไปสัมผัสกับถิ่นกำเนิดของฮอนด้า พร้อมทั้งร่วมเรียนรู้วัฒนธรรมและความล้ำหน้าทางนวัตกรรมของฮอนด้า ณ ดินแดนซากุระ เสมือนกับเป็นการตอกย้ำภาพความประทับใจให้ยังคงอยู่กับครอบครัวฮอนด้าตลอดไป