ร่วมงานกับเรา
ข่าวสารรถจักรยานยนต์ทั่วไป > 2550 > บิ๊กไบก์ตลาดใหม่ 2 ล้อ เสริมแบรนด์อิมเมจ
บิ๊กไบก์ตลาดใหม่ 2 ล้อ เสริมแบรนด์อิมเมจ
ที่มา - นสพ.บิสิเนสไทย วันที่ 14-20 พ.ค.50

เอ.พี.ฮอนด้า ฟันธงผล FTA ไทย-ญี่ปุ่น ส่งผลให้สองล้อ "บิ๊กไบก์" จะเป็นเวกเมนต์ใหม่แห่งอนาคต สั่งการเร่งศึกษาความเป็นไปได้นำเข้ามาทำตลาด แม้ในเชิงธุรกิจจะไม่คุ้มค่าหวังเป็นตัวสร้างแบรนด์อิมเมจเชื่อมไปสู่การใช้ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ นอกจากนี้ ยังได้ปรับรถตระกูล "เวฟ" รถครอบครัวยอดฮิตไปสู่ตลาดวัยรุ่นใช้ "เล้าโลม" นักร้องขวัญใจวัยรุ่นค่ายอาร์เอสเป็นตัวแทนในการเล่าเรื่องในฐานะ Brand Celebrity ผ่านหนังโฆษณา และกิจกรรมที่จัดขึ้น

หลังจากประเทศไทยเป็นสัญญาเขตการค้าเสรี (FTA) กับญี่ปุ่นที่มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า"ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระหว่างไทย-ญี่ปุ่น"หรือ JTEPA เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ถือเป้นการทะลายกำเนิดภาษีรถที่มีเครื่องยนต์ และจักรยานยนต์เป็นเซกเมนต์ใหม่เข้ามาทำตลาด พร้อมกับสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์

ผลของเอฟที่เอจะทำให้ราคานำเข้าจากญี่ปุ่นถูกลงปลายเท่าตัว ขณนะที่ผ่านมากำแพงภาษีทำให้ราคาขายปลีกรถที่มีขนาดซีซีสูงราคาสูงตามไปด้วย เมื่อเอฟที่เอไทย-ญี่ปุ่น มีผลทำให้ผู้บริโภคสามารถใช้เหตุผลในการเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น จะทำให้รถจักรยานยนต์ที่ซีซี.สูงในบ้านเราเป็นเซกเมนต์ใหม่ที่ค่ายรถจักรยานยนต์หมายปองที่จะนำเข้ามาทำตลาด โดยมุ่งไปที่การสร้างอิมเมจมากกว่าทำยอดขายเอาเอง

สำหรับเอ.พี.ฮอนด้า นแบรนด์ลีดเดอร์ตลาดรถยนต์เมืองไทยครองส่วนแบ่งตลาด 70% กำลังใร่งศึกษาตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ของไทย (บิ๊กไบก์)เพื่อนำรถจากญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดโดยใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอที่เพิ่งลงนามไปเมื่อตันเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

นายเซนจิโร่ ซากุราอิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรยถจักรยานยนต์"ฮอนด้า" กล่าวว่า ที่ผ่านมากำแพงภาษีเป็นอุปสรรคกับตลาดบิ๊กไบก์ทำให้ราคารถที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นมาจำหน่ายในประเทศไทยมีราคาสูง หลังจากไทยทำเอฟทีเอกับญี่ปุ่นจะทำให้ภาษีนำเข้ารถเครื่องยนต์ใหญ่รวมทั้งบิ๊กไบก์จะเป็นเซกเมนต์รถจักรยานยนต์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

แม้ว่าในแง่ของธุรกิจการนำบิ๊กไบก์เข้ามาทำตลาดจะทำกำไรไม่คุถ่มกับการลงทุน แต่การนำเข้ามาเพื่อทำตลาดอันเนื่องมาจากผลของเอฟทีเอ ที่ผ่านมา เอ.พี.ฮอนด้า ได้ศึกษาตลาดมาบ้างปัญหาอยู่ที่ราคาแพงมาก เมื่อเป็นอย่างนี้ระยะยาวนอกจากบิ๊กไบก์จะเป็นเซกเมนต์ใหม่ของรถจักยานยนต์" นายซากุราอิกล่าว

ในขณะเดียวกัน เอ.พี. ฮอนด้า เปิดทางเลือกใหม่แห่งอิสระไปกับฮอนด้า บวกประสบการณ์ใหม่ Exciting Experience ส่ง "เอกซ์ ซีรี่ส์" น้องใหม่ตระกูลเวฟลุยตลาดรถวัยรุ่น ด้วยสโลแกนได้ใจวัยโจ๋ "ขอโทษ..ที่ใจแรงอย่างเอกซ์" ดึง "เล้าโลม" ตัวแทนกลุ่มคนดนตรีวัยมันส์ ที่ล่าความฝันแบบสนุกคุ้มค่ามีสาระด้วยการเดินสายส่งผ่านประสบการณืใหม่ของคนใจแรง ที่สะท้อนผ่านฟีเจอร์รถ 4 จังหวะ 125 ซีซี. กับรูปลักษณ์ใหม่ เท่ เข้ม แนวสปอร์ต พร้อมเติมจินตนาการซ่ามกับอุปกรณ์แต่งเพียบ พิเศษสุดด้วยโปรโมชั่น"เอ็กซเซ็ต"ถึงวันที่ 31 พค.สำหรับ10,000 คันแรก กับแจ็กเกต ฝาครอบปลายท่อไอเสีย หมวกกันน็อก และซีดี Music VDO เพลงข้ามรุ่นของเล้าโลม มูลค่า 1,200 บาท

นายซากุราอิ ย้ำว่า ในฐานะผู้นำตลาดรถดจักรยานยนต์ในประเทศไทยมีนโยบายที่จะมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และความปลอดภัย เพื่อตอยสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคทุกกลุ่มอย่างเสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น เราจึงได้ส่งรถเอ.ที. 2 รุ่นได้แด่ ฮอนด้าคลิก และฮอนด้า แอร์เบลด ออกสู่ตลาดในปีที่ผ่านมา และก็โดนใจวัยโจ๋ด้วยการครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นที่ 1 ในตลาดเอ.ที. หรือคิดเป็นสัดส่วนตลาด 48% ของยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ในกลุ่มเอทีในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้

สำหรับเอ็กซ์ ซียรีส์ มีให้เลือก 2 รุ่นคือ
1) ดิสก์เบรกหน้า ดรัมเบรกหลัง และ 2) ดิสก์เบรกหน้า-หลัง ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 4.1 หมื่นบาท

นอกจากนี้ เรายังได้เลือกเอาหนุ่มๆ วง"เล้าโลม"จากค่ายอาร์เอสมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งศิลปินวงเล้าโลมนอกจากจะเป็นตัวแทนวกลุ่มของเด็กวัยรุ่น ที่ต้องการตามหาฝัน แลฃะ ทำฝันของตัวเองให้เป็นจริงขึ้นมา

"ฮอนด้าสตั้งใจที่จะส่งมอบความทเป้นรถที่โดนใจวัยรุ่นมากๆเซ็กเมนต์ และฮอนด้า "เอ็กซ์ ซีรีส์" ในครั้งนี้คือ อีกหนึ่งทางเลือกของรถวันรุ่นในแบบรถของครอบครัว หรือรถคับ (CUB) ที่ยังคงให้ความสนุกเราใจในแบบของรถระบบเกียร์ แต่เพิ่มความเป็นแฟชั่น ล้ำสมัยโดนใจวัยโจ๋ใจแรง แต่ประหยัดน้ำมันได้มากกว่ารถประเภทอื่น จึงสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันอย่างยิ่ง เราคาดว่า ฮอนด้า "เอ็กซ์ ซีรี่ส์" จะสร้างความคึกคักให้กับตลาดรถวัยรุ่นร่วมกับรถเอ.ที.ทั้งฮอนด้า คลิกและแอร์เบลด ได้เป็นอย่างดีสำหรับตลาดรวมรถจักรยานยนต์ในปีนี้เราคาดตั้งเป้าการจำหน่ายไว้ที่ 14.2 ล้านคัน จากตลาดรวม 1.76 ล้านคัน"นายซากุราอิ กล่าวทิ้งท้าย