ร่วมงานกับเรา
ข่าวสารรถจักรยานยนต์ทั่วไป > เช่าซื้อรถป้ายแดง-มือสองเดือด!
เช่าซื้อรถป้ายแดง-มือสองเดือด! แบงก์-นอนแบงก์ตาโต เห็นกำไรงาม งัดกลยุทธ์สู้กันสุดฤทธิ์ ชิงเค้ก 7 แสนล.
ที่มา - นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 13 - 15 ม.ค.54

แบงก์-นอนแบงก์ตะลุมบอนสินเชื่อเช่าซื้อเฉพาะรถมือสองกำไรจากการขาย 10-20% แถมกำไรจากอัตราดอกเบี้ยอีก 7-15% "โตโยต้า ลีสซิ่ง/เค-ลีสซิ่ง" ลุยสุดตัว ค่ายไทยพาณิชย์หันจับรถมือสอง-มายคาร์มายแคชเสริมพอร์ตโตเปลี่ยนกลยุทธ์ทำตลาดเจาะคนรุ่นใหม่ขี่ป้ายแดง ด้าน "สมเจตน์" เอ็มดีธนชาตลั่นรักษาแชมป์เผยอยู่ระหว่างจัดทำแผนธุรกิจ ค่าย "ราชธานีลีสซิ่ง" โฟกัสรถยี่ห้อหลักทำกำไรทั้งแท็กซี่ บรรทุกและโดยสาร

จากตัวเลขยอดคงค้างเงินให้สินเชื่อเพื่อการซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2553 มีจำนวน 462,636 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 26.53% จากช่วงเดียวกันปี 2552 ที่มีอยู่จำนวน 365,617 ล้านบาทสะท้อนสถานการณ์ตลาดเช่าซื้อที่ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องนั้น "ฐานเศรษฐกิจ" สำรวจธนาคารพาณิชย์ และผู้ประกอบการธุรกิจเช่าซื้อในระบบพบว่าส่วนใหญ่ประเมินตลาดสินเชื่อเช่าซื้อปี 2554 นี้มีโอกาสเติบโต 10-15% เหตุผลหลักมาจากราคาพืชผลภาคเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นต้นเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยหนุนตลาดสินเชื่อเช่าซื้อคึกคักทั้งรถใหม่และรถเก่า (รถมือสอง)
อีกทั้งตลาดยังคาดการณ์ว่าปีนี้จะเห็นการแข่งขันระหว่างรายใหญ่เช่น บมจ.ธนชาต บมจ.ไทยพาณิชย์และบมจ.กรุงศรีอยุธยาหรือจีอี หรือรายกลาง บมจ.ทิสโก้ บมจ.เกียรตินาคิน แม้กระทั่งบริษัทเคทีบีลิสซิ่ง จำกัด บริษัทในเครือบมจ.ธนาคารกรุงไทย จะเริ่มปล่อยสินเชื่อรายย่อยโดยตรงจากเดิมเกาะกลุ่มข้าราชการหรือรัฐวิสาหกิจ และผู้ประกอบการเช่าซื้อที่ไม่ได้สังกัดธนาคารพาณิชย์ ส่วนรูปแบบการแข่งขันตลาดรถใหม่นั้นจากการสำรวจพบว่าส่วนใหญ่เป็นการสู้กันด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำและบริการที่โดนใจลูกค้า

นายประยุทธ์ จิตรวัชรโกมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโตโยต้า ลีสซิ่ง ประเทศไทยฯ เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าตลาดเช่าซื้อปีนี้สดใส โดยมีปัจจัยบวกจากราคาพืชผลเกษตร การลงทุนภาครัฐที่จะเกิดการหมุนเงินในระบบ และผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นประกอบกับโมเดลรถใหม่ที่จะออกมากระตุ้นตลาดที่โดยรวมยอดขายรถปีนี้ไม่ต่ำกว่า 8.5 แสนคัน เฉลี่ยราคา 5.5 แสนบาทต่อคัน (เก๋ง-กระบะ) ส่งผลให้ตลาดสินเชื่อเช่าซื้อยังคงแข่งขันดุเดือด

"การทำตลาดของกลุ่มรถยนต์ปีนี้เชื่อว่าแต่ละค่าย ไม่ว่าโตโยต้า ฮอนด้า อีซูซุ นิสสัน ฯลฯ ยังคงใช้บริษัทการเงินกระตุ้นยอดขาย และทำตลาดกับบริษัทในเครือเรื่องโปรแกรมต่างๆ ทั้งรถใหม่และรถเก่าซึ่งรถเก่ายังทำกำไรได้ดีกว่ารถใหม่ เฉพาะกำไรจากการขายรถเก่าอยู่ที่ประมาณ 10-20% และยังมีกำไรจากอัตราดอกเบี้ยสูงกว่ารถใหม่หากอายุรถไม่เกิน 12 ปีผ่อนชำระได้ยาว 72 เดือนเรียกว่ายิ่งเก่าดอกเบี้ยยิ่งแพง"

สอดคล้องนายอิสระ วงศ์รุ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่ง กสิกรไทยฯ (เคลีสซิ่ง) ที่ระบุว่า รถใหม่นั้นมีกำไรบ้างต่ำกว่า 1% แต่พอร์ตสินเชื่อมีคุณภาพดีเพราะมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ต่ำ ดังนั้น การปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ต้องอาศัยการขยายสินทรัพย์ หรือเพิ่มโวลุ่มเพื่อให้เกิด Economy of Scale และยอมรับว่ารถเก่ามีกำไรสูงกว่ารถใหม่แต่ที่สำคัญต้องขึ้นอยู่การบริหารด้วย หากบริหารจัดการไม่ได้คุณภาพตัวเลขกำไรที่เห็นอาจสวนทางกันหรือทำกำไรได้ต่ำ

ขณะที่นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวยืนยันว่า ทางธนาคารธนชาตยังคงรักษาตำแหน่งเบอร์ 1 สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์แน่นอน โดยขอเวลาอีกระยะที่จะให้รายละเอียดถึงกลยุทธ์ เนื่องจากขณะนี้กำลังจัดทำแผนธุรกิจอยู่

นายณรงค์ ศรีจักรินทร์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (บมจ.) กล่าวว่านโยบายไทยพาณิชย์ปีนี้เน้นการเติบโตแบบผสม คือ เปลี่ยนกลยุทธ์การทำตลาดรถใหม่ไปเน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือประเภทรถยนต์ประหยัดมากขึ้นโดยใช้แคมเปญโปรโมชันและความสัมพันธ์กับดีลเลอร์ ขณะเดียวกันจะลุยตลาดรถมือสองด้วยการขยายทีมเจ้าหน้าที่ตลาดไปตามหัวเมืองต่างจังหวัดและสินเชื่อรถแลกเงินหรือ "มายคาร์มายแคช" จะใช้สาขาในการบริการและเข้าถึงลูกค้า โดยคาดว่าทั้งปี น่าจะเติบโต 30-40% จากปีก่อน ที่มีจำนวน 110,000 คันเฉลี่ยยอดปล่อยสินเชื่อ 5 แสนบาทต่อคัน พอร์ตเช่าซื้อสิ้นปีก่อนกว่า 8 หมื่นล้านบาท" นายณรงค์กล่าว

นายโกวิท รุ่งวัฒนโสภณ กรรมการผู้จัดการบริษัท ราชธานีลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นโยบายของราชธานีลีสซิ่งปีนี้โฟกัสไปที่ตลาดรถมือสองยี่ห้อหลักๆ รวมทั้งทำตลาดรถบรรทุกแท็กซี่ NGV และรถโดยสารซึ่งสามารถคิดดอกเบี้ยสูงกว่าเก๋ง

"ภาพรวมการทำกำไรสินเชื่อรถมือสองนั้นกำไรจากการขายปีนี้จะลดลง เพราะมีรถป้ายแดงออกมาเยอะ คือรถใหญ่ราคาเกิน1 ล้านบาท กำไรจะอยู่ที่ประมาณ10-15% รถเล็กราคา 5 แสนบาท กำไรประมาณ 15-20% สำหรับกำไรจากอัตราดอกเบี้ยนั้นเฉลี่ย 7-15% โดยปีนี้ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นจึงต้องทำดอกเบี้ยเพื่ออนาคต โดยคิดดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 4% สูงสุดอัตรา 10% จากปีก่อนๆเริ่มต้นที่ 3.50%"

อนึ่งสมาคมเช่าซื้อไทยระบุตัวเลขยอดสินเชื่อเช่าซื้อทั้งรถยนต์ใหม่และรถเก่า (มือสอง) จากการรวบรวมจากสมาชิก 33 ราย นั้นปี 2551 มีจำนวน 727,076.67 ล้านบาทแบ่งเป็นรถใหม่ 564,120.34 ล้านบาทและรถเก่า 162,956.32 ล้านบาท โดยคาดว่าตัวเลขยอดสินเชื่อเช่าซื้อ สิ้นปีก่อนจะรวบรวมเสร็จสิ้นเดือนม.ค. 2554 นี้