อันดับรถจักรยานยนต์ยอดนิยม > อันดับรถจักรยานยนต์ยอดนิยมประจำปี 2546

เปิดโผ "สองล้อ" สุดฮิตปีแพะ
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 23 มกราคม 2546

รถจักรยานยนต์ ถือเป็นตลาดที่ใหญ่มากในไทย มียอดขายต่อปีมากกว่าล้านคัน ดังนั้นตลอดช่วงปี 2546 ที่ผ่านมา ซึ่งมียอดขายรวมกันถึง 1.76 ล้านคัน จึงน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่า มีรถรุ่นไหนยี่ห้ออะไรบ้างที่ขายดี เพราะจะทราบถึงความต้องการ และกระแสตอบรับของลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างไร

สำหรับยอดขายรถจักรยานยนต์ตลอดปี 2546 ที่ผ่านมา จากรายงานของบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า จะสังเกตุเห็นว่ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 32% ซึ่งมีปัจจัยสำคัญมาจากการแนะนำรถราคาประหยัดสู่ตลาดในช่วงกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นของฮอนด้า และซูซูกิ รวมถึงรถจักรยานยนต์สัญชาติไทยอย่าง ไทเกอร์ บวกกับการอัดฉีดเม็ดเงินลงสู่ระดับรากหญ้าจากโครงการต่างๆ ของรัฐบาล จึงทำให้ปีที่ผ่านมา มียอดขายรถจักรยานยนต์สูงสุดเป็นประวัติการณ์

เหตุนี้จึงไม่แปลกที่ 10 อันดับแรกรถจักรยานยนต์ยอดนิยม จะมีรถราคาประหยัดเป็นหัวหอกในการทำยอดขาย ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า เวฟ 100 หรือซูซูกิ สแมซ จูเนียร์ ที่มีราคาไม่ถึง 3.0 หมื่นบาท แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้คือ เกือบทั้งหมดใน 10 อันดับแรก ล้วนเป็นรถแบบครอบครัว นั่นแสดงให้เห็นว่ารถเหล่านี้เป็นที่ตอบรับของลูกค้าชาวไทยแค่ไหน จะมีโผล่มาติดอันดับบ้างก็เป็นรถกึ่งสปอร์ตของค่ายฮอนด้าเท่านั้น

โดยจาก 10 อันดับแรกของรถจักรยานยนต์ยอดนิยมในปีที่ผ่านมา ซึ่งวัดจากยอดขายในการจัดอันดับ (ดูตารางประกอบ) ปรากฎว่า ฮอนด้า เวฟ 100 ซึ่งเป็นรถครอบครัวราคาประหยัดของฮอนด้า ทำยอดขายได้สูงสุดถึง 7.44 แสนคัน กวาดยอดขายเป็นอันดับหนึ่ง ทิ้งอันดับสองที่เป็นรถจากสายพันธุ์เดียวกัน เวฟ 125 กว่า 5 แสนคัน ส่วนอันดับสามเป็นของค่ายซูซูกิที่เป็นรถจักรยานยนต์ราคาประหยัดเช่นกัน ซูซูกิ สแมซ จูเนียร์ ทำได้ 121,898 คัน

10 อันดับรถจักรยานยนต์ยอดนิยมปี 2546

 

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ในจำนวน 10 อันดับแรก รถจักรยานยนต์ฮอนด้ากวาดตำแหน่งรถยอดนิยมไปครองถึง 5 อันดับ นี่จึงบ่งชี้ได้อย่างดีถึงความนิยมของลูกค้าชาวไทย ที่มีต่อผลิตภัณฑ์นี้ได้เป็นอย่างดี ถึงกับฉุดรถกึ่งสปอร์ต ฮอนด้า โนวา โซนิค ที่หากวัดความนิยมของรถประเภทนี้กับรถครอบครัวแล้ว มียอดขายห่างกันกว่าล้านคัน แม้จะได้รับความนิยมรองเป็นอันดับสองก็ตาม เหตุนี้จึงไม่แปลกที่ฮอนด้าจะ ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 73%

อย่างไรก็ตาม แม้ฮอนด้าจะยึดตำแหน่งรถยอดนิยมได้ถึง 5 อันดับ แต่หากเทียบกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ถือว่าคู่แข่งกลับมาแย่งชิงยอดขายได้พอสมควร เพราะจะมีส่วนแบ่งตลาดที่ลดลงมาหลายเปอร์เซ็นต์ และตำแหน่งรถยอดนิยมก็ลดลงด้วยเช่นกัน

เพราะฉะนั้นปีนี้จึงน่าจับตามองอย่างยิ่ง เนื่องจากสภาพตลาดน่าจะถึงจุดอิ่มตัว แต่จะมีการแข่งขันที่รุนแรงเพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่ม โดยเฉพาะมีข่าวว่าจะมีการเปิดตัวรถราคาประหยัดประมาณ 2.5 หมื่นบาทออกมาท้าชนกันอีก งานนี้แม้สงครามจะดุเดือด แต่ลูกค้าชาวไทยได้ประโยชน์แน่นอน