 
            
            
            
            
        
นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด รายงานสรุปยอดการจำหน่ายรถยนต์รวมในปีที่ผ่านมา ทุกยี่ห้อ 2,061,610 คัน เติบโตลดลงจากปีที่แล้ว 2% หรือ 41,937 คัน โดยฮอนด้ายังคงรักษาความเป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 18 ด้วยยอดจำหน่าย 1,335,104 คัน มีส่วนแบ่งการตลาดถึง 65%
ยอดขายรถจักรยานยนต์ปี 2549 เปรียบเทียบกับปี 2548
| อันดับ | ยี่ห้อ | ปี 2549 | ปี 2548 | 49/48 | ||
| จำนวน 
                                    (คัน)  | % | จำนวน 
                                    (คัน)  | % | % | ||
| 1 | ฮอนด้า | 1,335,104 | 65 | 1,401,240 | 67 | 95 | 
| 2 | ยามาฮ่า | 475,823 | 23 | 390,518 | 19 | 122 | 
| 3 | ซูซูกิ | 205,302 | 10 | 196,419 | 9 | 105 | 
| 4 | ไทเกอร์ | 13,863 | 1 | 67,418 | 3 | 21 | 
| 5 | คาวาซากิ | 10,404 | 1 | 28,181 | 1 | 37 | 
| 6 | เจอาร์ดี | 6,025 | 0 | 12,156 | 1 | 50 | 
| 7 | แพล็ททินั่ม | 5,167 | 0 | 1,989 | 0 | - | 
| 8 | อื่นๆ | 9,922 | 0 | 5,896 | 0 | 168 | 
| รวม | 2,061,610 | 100 | 2,103,547 | 100 | 98 | |
                 หากแบ่งเป็นยอดจำหน่ายรถแต่ละประเภท 
                    ตลาดใหญ่อันดับหนึ่งรถแบบครอบครัวที่ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด 56% มียอดจำหน่ายรวม 1,149,242 คัน ลดลงจากปีที่แล้ว 30% อันดับสองเป็นรถแบบเอทีที่ครองส่วนสัดส่วนตลาด 38% มียอดจำหน่ายรวม 790,319 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 256% นอกนั้นเป็นรถสปอร์ตและแฟมิลี่สปอร์ตประมาณ 6% หรือเทียบเท่าจำนวน 122,006 คัน
ยอดขายรถจักรยานยนต์ปี 2549 เปรียบเทียบกับปี 2548
| อันดับ | ยี่ห้อ | ปี 2549 | ปี 2548 | ||
| จำนวน 
                                    (คัน)  | % | จำนวน 
                                    (คัน)  | % | ||
| 1 | รถครอบครัว | 1,149,242 | 56 | 1,642,576 | 78 | 
| 2 | รถสกู๊ตเตอร์ | 790,319 | 38 | 311,143 | 15 | 
| 3 | รถสปอร์ตและแฟมิลี่สปอร์ต | 122,006 | 6 | 149,337 | 7 | 
                 จากการวิเคราะห์สภาพการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในปี 
                        2549 ลดลงเพราะได้รับผลกระทบจากสภาวะการเปลี่ยนแปลง ทั้งด้าน เศรษฐกิจ 
                    การเมือง และการเกษตร โดยเฉพาะภาคเกษตรเมื่อรายได้หลักถูกกระทบกำลังซื้อก็ถดถอย 
                    จึงเกิดการชะลอซื้อรถจักรยาน ยนต์ ทำให้การจำหน่ายรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวซึ่งเป็นรถของคนส่วนใหญ่ที่ใช้ได้ทั้งครอบครัวมีสัดส่วนลดลงมากถึง 30% ซึ่งรถยอดนิยมอันดับหนึ่งในกลุ่มรถครอบครัวคือ ฮอนด้าเวฟ สามารถทำยอดจำหน่ายได้ 
                    ถึง 638,809 คัน
ขณะที่รถแบบเอทีที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นที่นิยมของวัยรุ่นแต่มีราคาที่สูงกว่า ได้กลายเป็นทางเลือกใหม่ของกลุ่มมีกำลังซื้อ ซึ่งอาศัยอยู่ในเมือง และเลือกใช้รถจักรยานยนต์เพราะประหยัดน้ำมันมากกว่าการใช้รถยนต์ ประกอบกับหลายค่ายผู้ผลิต ได้แนะนำรถจักรยานยนต์แบบเอทีรุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง จากจำนวนเพียง 3 รุ่นในปี 2548 เพิ่มเป็น 7 รุ่น ในปี 2549 ทำให้รถประเภทนี้มีการเติบโตจากปีก่อนมากถึง 256% และรถยอดนิยมอันดับหนึ่งคือฮอนด้า คลิก โดยมียอดจำหน่าย 254,424 คัน จากการจำหน่ายเพียง 11 เดือนหลังเปิดตัวเดือนกุมภาพันธ์ ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หากหันมามองตัวเลขจดทะเบียนป้ายวงกลมใหม่ของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในปี 2549 มีตัวเลขรวม 1,926,803 คัน ซึ่งไม่ตรงกับยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่แจ้งไว้ดังกล่าวข้างต้นนั้น นายธีระพัฒน์ ชี้แจ้งว่า ตัวเลข 1,926,803 คัน ถือเป็นยอดจำหน่ายจริงจากร้านผู้จำหน่ายถึงผู้ใช้และมีการจดทะเบียนป้ายวงกลม โดยส่วนต่างที่เกิดขึ้นจากตัวเลขแจ้งย้ายที่ 2,061,610 คัน กับตัวเลขจดทะเบียนวงกลมที่ 1,926,803 คัน นั้น ส่วนหนึ่งเป็นตัวเลขสต๊อกคงเหลือที่หน้าร้ายผู้จำหน่ายฯ และอีกส่วนเป็นตัวเลขการแจ้งย้ายข้ามจังหวัด ซึ่งอาจมีการซ้ำซ้อน
ฮอนด้าคาดการณ์ว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยถ้ามองจากสถิติการจดทะเบียนป้ายวงกลม ซึ่งเป็นตัวเลขที่ผู้ใช้รถใหม่จดทะเบียนใช้จริง ในพื้นที่คงมีจำนวนใกล้เคียงกับปีที่แล้วคือ 190,000 คัน โดยฮอนด้าตั้งเป้ายอดจดทะเปียนวลกลมในปีนี้ไว้ 1,300,000 คัน