ร่วมงานกับเรา
ยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ > ยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์เดือนส.ค.54
ตลาดรถสองล้อเดือนสิงหาคมยังเติบโตต่อเนื่องแม้เข้าหน้าฝน
ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์ บจก.เอ.พี.ฮอนด้า วันที่ 27 ก.ย.54

ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ไทยเดือนสิงหาคมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้เข้าฤดูฝน ล่าสุดปิดเดือนด้วยตัวเลขยอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 190,718 คัน สูงกว่าเดือนสิงหาคมปี 2010 จำนวน 28,200 คัน หรือปรับตัวสูงขึ้น 117% ในขณะที่ฮอนด้า ผู้นำอันดับหนึ่งเติบโตสูงกว่าตลาดรวมโดยมียอดจดทะเบียนทั้งสิ้นที่ 134,182 คัน หรือเติบโตขึ้นถึง 125% คาดภาพรวมในเดือนนี้ตลาดอาจจะได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดต่างๆ โดยฮอนด้าได้ร่วมกับร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในเบื้องต้นไปแล้วหลากหลายรูปแบบ และมีความคาดหวังว่าสถานการณ์จะคืนสู่สภาพปกติในไม่ช้านี้ ล่าสุดได้ส่ง New Honda Scoopy i เสริมตลาดในกลุ่มวัยรุ่น เพื่อกระตุ้นการจำหน่ายในภาพรวม

นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงสภาพตลาดรถจักรยานยนต์ของเดือนสิงหาคมว่า “ตลาดรถจักรยานยนต์ในเดือนสิงหาคมปีนี้ยังคงมีอัตราการเจริญเติบโตที่สูงแม้จะเข้าหน้าฝนแล้วก็ตาม โดยมียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 190,718 คัน มากกว่าเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 28,200 คัน หรือมีอัตราการเติบโตเท่ากับ 117% ซึ่งในจำนวนดังกล่าวนี้ รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนสูงกว่าตลาดรวมด้วยอัตราการเติบโตที่สูงถึง 125% จากยอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 134,182 คัน มากกว่าเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 26,749 คัน คิดเป็นสัดส่วนครองตลาด 70% ของตลาดรวมทั้งหมด ทั้งนี้ เมื่อแยกประเภทการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเมืองไทยแล้วพบว่า ตลาดรถครอบครัวเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด โดยมียอดจดทะเบียนในเดือนสิงหาคมสูงถึง 96,007 คัน มากกว่าเดือนสิงหาคมในปีที่แล้ว 21,935 คัน หรือมีอัตราการเติบโตสูงถึง 130% โดยในจำนวนดังกล่าวนี้ รถจักรยานยนต์ประเภทครอบครัวของฮอนด้าครองตลาดสูงถึง 84% ด้วยยอดจดทะเบียนที่ 80,210 คัน สะท้อนความมั่นใจและความไว้วางใจจากชาวรากหญ้าที่มีต่อรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้อย่างชัดเจน

ในขณะเดียวกัน ตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่สองอย่างตลาดรถเอ.ที มีอัตราเติบโตขึ้นเล็กน้อยโดยมียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 87,885 เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 2,402 คัน หรือสูงขึ้น 103% โดยฮอนด้ายังคงครองความเป็นเจ้าตลาดเช่นเดิมด้วยยอดขายรวมทั้งสิ้น 52,673 คัน คิดเป็นสัดส่วนการครองตลาดที่ 60% โดยเฉพาะรถฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ มียอดจดทะเบียนเฉพาะในเดือนสิงหาคมรวมทั้งสิ้น 30,425 คัน ครองอันดับหนึ่งอย่างต่อเนื่องมาตลอดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2553 ถึง สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา”

ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นรถเอ.ที.ยอดนิยมอันดับหนึ่งของเมืองไทย ฮอนด้าได้ส่ง New Honda Scoopy i ดีไซน์ใหม่ ลงสู่ตลาด หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงจากรุ่น Limited Edition ลายลิขสิทธิ์ทีมแมนฯยูฯและทีมลิเวอร์พูล ด้วยกระแสตอบรับที่มาแรง จนต้องเพิ่มจำนวนผลิตเป็นทีมละ 10,000 คัน เมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยล่าสุด New Honda Scoopy i นี้ได้รับการออกแบบใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ออกลาย...ซ่า มันส์...มาก” ใน 3 สไตล์สุดจี๊ดทั้ง Active Boy, Vivid Me และ Prestige Guy สำหรับวัยรุ่นวัยมันส์ ที่มีบุคลิกแตกต่างกัน พร้อมเครื่องยนต์หัวฉีด PGM-FI สุดยอดเทคโนโลยี ที่ให้อัตราเร่งที่ดีกว่า และยังประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สมกับที่เป็นรถที่ครองใจวัยรุ่นอย่างเหนียวแน่นมาโดยตลอด

สำหรับภาพรวมของตลาดรถจักรยานยนต์เดือนกันยายนนี้ เป็นที่คาดการณ์ว่าจะเป็นไปในลักษณะชะลอตัวเนื่องจากยังคงอยู่ในฤดูมรสุม ปัญหาน้ำท่วมยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตาม มาตรการจากทางภาครัฐหลายมาตรการได้สร้างความมั่นใจให้ประชาชนกล้าที่จะจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ โครงการรับจำนำราคาสินค้าเกษตร และโครงการพักหนี้เกษตรกร เป็นต้น

“แม้นโยบายการขึ้นค่าแรง และการจำนำราคาสินค้าเกษตรจะยังไม่ได้รับการอนุมัติ แต่ก็ได้สร้างความมั่นใจในระยะยาวให้กับเกษตรกรและประชาชนทั่วไปในการจับจ่ายใช้สอยพอสมควร ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการเติบโตของตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศ นอกจากนี้ จากการที่ประชาชนจำนวนมากต้องประสบกับความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม ฮอนด้าจึงได้ผนึกกำลังกับร้านผู้จำหน่ายในแต่ละพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้วในหลากหลายรูปแบบ ไมว่าจะเป็นการแจงถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง และบริการ “Free Service” ซ่อมแซมรถจักรยานยนต์ฮอนด้าที่เสียหายจากภัยน้ำท่วมฟรี” นายสุชาติ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับรายงานตัวเลขตลาดรวมรถจักรยานยนต์ทุกประเภทประจำเดือนสิงหาคม 2554 มีปริมาณการจดทะเบียนป้ายวงกลมทั้งสิ้น 190,718 คัน แบ่งเป็นรถแบบครอบครัว 96,007 คัน คิดเป็นอัตราส่วนที่ 50% รถแบบ เอ.ที. 87,885 คัน คิดเป็นอัตราส่วน 46% รถแบบออฟโรด 2,767 คัน คิดเป็นอัตราส่วน 1% รถแบบสปอร์ต 2,349 คัน คิดเป็นอัตราส่วน 1% รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ตและรถแบบอื่นๆ รวมกัน 1,710 คัน คิดเป็นอัตราส่วน 1%

ทั้งนี้เมื่อนำยอดจดทะเบียนมาแบ่งแยกตามประเภทผู้ผลิตพบว่าในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 134,182 คัน เทียบเท่าสัดส่วนครองตลาดที่ 70% ตามด้วย ยามาฮ่า 42,748 คัน สัดส่วนครองตลาด 22%, ซูซูกิ 7,554 คัน สัดส่วนครองตลาด 4% และคาวาซากิ 3,067 คัน หรือ 2%, ไทเกอร์ 142 คัน, แพลตินัม 116 คัน, เจอาร์ดี 23 คัน และอื่นๆอีก 2,886 คัน